ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า กองทุนเพื่อพัฒนาการอุดมศึกษาถือเป็นก้าวสำคัญของการปฏิรูปการเรียนระดับอุดมศึกษาของไทย ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้มหาวิทยาลัยคิดหรือได้ทดลองหลักสูตรใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิมโดยเฉพาะหลักสูตรที่เน้นเรื่องการปฏิบัติตามความต้องการของตลาด เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ประเทศได้มากขึ้น โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะภาคเอกชนให้มากขึ้น โดยที่ผ่านมา สำนักงานส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ ได้มาร่วมทำหลักสูตรแซนด์บอกซ์กับ อว. เพื่อสร้างวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ ตามความต้องการของบริษัทที่มาขอรับการลงทุนในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) เพื่อตอบสนองความต้องการของโลกยุคใหม่ เช่น Cyber Security นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data scientist ) นักบูรณาการระบบในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ได้ในอนาคต
นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนและพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า แนวคิดในการจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาการอุดมศึกษา มุ่งเน้นผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพป้อนเข้าสู่ภาคเศรษฐกิจรองรับการดิสทรัปชั่นอย่างรวดเร็ว (Disruptive change) และพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อตอบสนองความต้องการของคนทุกช่วงวัยให้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาตามความต้องการของผู้เรียนได้ โดยการจัดตั้งกองทุนฯ จะเข้ามาขับเคลื่อนและช่วยสนับสนุนภารกิจเฉพาะด้านในการพัฒนาความเป็นเลิศของสถาบันอุดมศึกษาและการผลิตกำลังคนระดับสูงเฉพาะทางให้สอดรับกับความต้องการของประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศไทย อาทิ ผลิตบัณฑิตและกำลังคนที่มีสมรรถนะและศักยภาพสูงเพียงพอต่อความต้องการของภาคส่วนต่างๆ ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจสาขาใหม่ๆ และพัฒนาสังคมและชุมชนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก
สำหรับการจัดสรรเงินกองทุน กำหนดให้การจัดสรรเงินกองทุนให้เป็นไปตามคำรับรองการปฏิบัติตามเงื่อนไขของการรับเงินอุดหนุนการพัฒนาการอุดมศึกษาระหว่าง สป.อว. และสถาบันอุดมศึกษาซึ่งได้รับจัดสรร โดยคำรับรองดังกล่าวต้องกำหนดผลสัมฤทธิ์และตัวชี้วัดที่ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนด้าน การอุดมศึกษา และเป็นไปตามความต้องการของประเทศอย่างแท้จริง โดยให้คณะกรรมการบริหารกองทุนจัดให้มี การติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ตามคำรับรองดังกล่าว และรายงานให้คณะกรรมการติดตามและประเมินผล การพัฒนาการอุดมศึกษาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมทราบ
ที่มา: เจพี วัน คอนซัลแทนท์