นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร และพัฒนาธุรกิจใหม่ บมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "ที่ผ่านมาบริษัทได้เตรียมการเพื่อรับมือกับกรณีพิพาทดังกล่าวไว้แล้วอย่างรอบคอบ โดยได้มีการตั้งสำรองและบันทึกประมาณการหนี้สินระยะยาวไว้แล้วจำนวน 400 กว่าล้านบาท ประกอบกับบริษัทมีรายได้ประจำที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง ผมจึงมั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสถานะการเงินและการดำเนินงานของบริษัท รวมทั้งการผ่อนชำระหนี้ดังกล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2567 บริษัทยังมั่นใจว่าผลประกอบการของธุรกิจโดยรวมจะสูงขึ้นกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน ด้วยปัจจัยบวกต่อการเติบโตของทุกสายธุรกิจในกลุ่ม เช่น สายธุรกิจไอซีที ภายใต้บมจ.สามารถเทลคอม (SAMTEL) ปีนี้ คาดว่าจะมีมูลค่างานในมือทะลุ 10,000 ล้านบาท ด้วยการเซ็นสัญญาโครงการใหญ่ในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบิน โดยบมจ.สามารถเอวิเอชั่น (SAV) นอกจากจะมีการเติบโตของธุรกิจศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชาแล้ว SAV ยังจ่อขยายธุรกิจบริการภายในสนามบินทั้งในและต่างประเทศ ให้ครอบคลุมและครบวงจรมากยิ่งขึ้น เพื่อเสริมสร้างรายได้ประจำให้แข็งแกร่ง ที่สำคัญ บริษัทกำลังเร่งเครื่องโครงการที่ สปป.ลาว เพื่อให้เกิดความชัดเจนและคืบหน้าโดยเร็ว"
"ด้วยประสบการณ์ในการผ่านวิกฤตต่างๆ มาแล้วมากมาย บริษัทสามารถจึงดำเนินธุรกิจด้วยความไม่ประมาท และให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบด้าน ดังนั้น จึงขอให้ความเชื่อมั่นว่า กลุ่มบริษัทสามารถจะเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืนและจะมุ่งมั่นในการคว้าทุกโอกาสทางธุรกิจเพื่อสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่คุ้มค่า" นายวัฒน์ชัยกล่าวปิดท้าย
ที่มา: Brand Wealth