พร้อมทั้งรับรู้รายได้เต็มไตรมาส จากการให้บริการเรือในธุรกิจเรือสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล "OSV" เพิ่มขึ้น 3 ลำ ที่เริ่มทยอยให้บริการตั้งแต่ช่วงต้นปีทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นผลดำเนินงานครึ่งหลังปีนี้ ยังเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก มีปัจจัยสนับสนุนจากแผนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ และการเข้าทำสัญญาให้บริการระยะยาวเพื่อเสริมความมั่นคงของรายได้ในระยะยาวนางสาวสุธาสินี กล่าวเพิ่มเติมถึงการขยายกองเรือว่า บริษัทได้ตั้ง CAPEX ในปีนี้ไว้มากกว่า 3 พันล้านบาทเพื่อเพิ่มกองเรือ โดยคาดว่าช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จะซื้อเรือ FSU เพิ่มอีก 1 ลำ
โดยมองว่าธุรกิจ FSU ยังมีทิศทางการเติบโตที่สดใสตามความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น จากความต้องการในการกักเก็บน้ำมันที่ฟื้นตัวและความต้องการในการผสมน้ำมันเกรดใหม่ ซึ่ง FSU ของบริษัทมีความได้เปรียบ เนื่องจากมีความสามารถในการผสมและปรับเกรดน้ำมันตามความต้องการของลูกค้าได้ รวมถึงการซื้อเรือ Aframax ใหม่จำนวน 1 ลำ เพื่อทดแทนเรือลำเดิมที่เตรียมนำไปดัดแปลงให้เป็นเรือ FSO เพื่อให้ขยายธุรกิจ Offshore Support Vessel "OSV" ที่คว้างานสัญญาระยะยาวเพิ่มเติมนอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนปรับลดอายุกองเรือ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ และควบคุมต้นทุนจากการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเตรียมการสั่งต่อเรือใหม่ 6 ลำ ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับเรือได้ในปี 2568-2569 มั่นใจ PRM ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 2567 จะเติบโตแข็งแกร่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้
ที่มา: เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น