สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 18 "ประชากรและสังคม 2567"

พุธ ๐๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ๑๑:๔๑
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 18 "ประชากรและสังคม 2567" ภายใต้แนวคิด "ประชากรและความยั่งยืน: ประเด็นสำคัญทางนโยบาย" (Population and Sustainability: Key Policy Highlight)
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 18 ประชากรและสังคม 2567

สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล มุ่งสร้างองค์ความรู้ด้านประชากรและสังคมอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ สอดคล้องกับบริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลงและเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา สถาบันฯ ดำเนินบทบาทสำคัญทางวิชาการให้กับสังคมไทย ด้วยการพัฒนาสร้างเสริมการศึกษาวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ที่หลากหลายในลักษณะสหวิทยาการด้านประชากรและสังคม อีกทั้งนำเสนอความรู้และข้อค้นพบสำคัญ ๆ จากการศึกษาวิเคราะห์วิจัย ไปเผยแพร่ทั้งในแวดวงวิชาการ ผู้กำหนดนโยบาย สื่อมวลชน และสาธารณชนทั่วไป เพื่อเป็นข้อเสนอแนะเชิงรุก ในการเตรียมความพร้อมรับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงในมิติต่างๆ ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ วัฒนธรรม และการเมือง อย่างต่อเนื่องทั้งในระดับประเทศ และในภูมิภาคต่างๆ ของโลก

วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 18 "ประชากรและสังคม 2567" ภายใต้แนวคิด "ประชากรและความยั่งยืน: ประเด็นสำคัญทางนโยบาย" (Population and Sustainability: Key Policy Highlight) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีในการนำเสนอข้อมูล ผลงานวิจัย การหารือและแลกเปลี่ยนมุมมองทั้งในเชิงวิชาการและเชิงนโยบายจากอาจารย์ นักวิจัยของสถาบันฯ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก และผู้เข้าร่วมประชุมที่มาจากหลากหลายสาขาในประเด็นที่เชื่อมโยงกันระหว่างความท้าทายทางด้านประชากรกับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน

ในปีนี้ ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอื้อมพร มัชฌิมวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายการคลัง มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมฯ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.เฉลิมพล แจ่มจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวต้อนรับ จากนั้น ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ประธานกรรมการแพลตฟอร์ม Youth in Change ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "อารยธรรมบนทางสองแพร่ง: ความยั่งยืนกับอนาคตของมนุษยชาติ" (Civilization at the Crossroads: Sustainability & Our Human Future) ณ ห้องประชุมประชาสังคมอุดมพัฒน์ (101) ชั้น 1 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา และรูปแบบออนไลน์

ในโอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.เฉลิมพล แจ่มจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เข้าร่วมเสวนาโต๊ะกลม หัวข้อ "การพัฒนาที่ยั่งยืนกับนโยบายประชากรและสังคม" ร่วมกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชล บุนนาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) คุณพร้อมบุญ พานิชภักดิ์ เลขาธิการมูลนิธิรักษ์ไทย และคุณวรวรรณ พลิคามิน รองเลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ภายในงานประชุมดังกล่าว มีการนำเสนอบทความวิชาการจำนวน 3 ประเด็นหลัก ในมิติที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้แก่ มิติด้านการเกิด เด็ก และครอบครัว มิติด้านสุขภาพ อาหาร และสิ่งแวดล้อม และมิติด้านการย้ายถิ่นของประชากรต่างอารยธรรม

ประเด็นที่ได้จากการประชุมวันนี้ นำไปสู่ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและประชากรในปัจจุบัน สามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้

  1. นโยบายด้านประชากรและครอบครัว
  • ควรมีการส่งเสริมการมีบุตรผ่านมาตรการสนับสนุนทางการเงินและสวัสดิการ เช่น เงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็ก การลดหย่อนภาษี รวมถึงการขยายระยะเวลาการลาคลอดและลาเลี้ยงดูบุตร ส่งเสริมการลาของบิดา
  • พัฒนาศูนย์ดูแลเด็กเล็กที่มีคุณภาพและราคาเหมาะสม โดยเฉพาะสำหรับเด็กอายุ 0-2 ปี
  • สร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและครอบครัว (Work-life balance) ผ่านนโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่น
  1. นโยบายด้านผู้สูงอายุ
  • พัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว โดยเน้นการดูแลในชุมชน (Community-based care)
  • ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานของผู้สูงอายุ ผ่านการปรับปรุงกฎหมายแรงงาน และสร้างแรงจูงใจทางภาษี
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ (Age-friendly environment) ทั้งในด้านที่อยู่อาศัย การคมนาคม และพื้นที่สาธารณะ
  • พัฒนาระบบประกันการดูแลระยะยาว (Long-term care insurance) เพื่อรองรับค่าใช้จ่าย ในการดูแลผู้สูงอายุ
  1. นโยบายด้านสุขภาพและสาธารณสุข
  • พัฒนาระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง
  • ส่งเสริมการป้องกันโรคและการสร้างเสริมสุขภาพ โดยเน้นการลดพฤติกรรมเสี่ยงและการมีกิจกรรมทางกาย
  • พัฒนาระบบเฝ้าระวังและตอบสนองต่อโรคอุบัติใหม่และภัยพิบัติทางธรรมชาติ
  • ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการติดตามสุขภาพและการให้บริการทางการแพทย์ทางไกล (Telemedicine)
  1. นโยบายด้านการศึกษาและพัฒนาทักษะแรงงาน
  • ปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาให้เน้นทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 และสอดคล้องกับความต้องการ ของตลาดแรงงาน
  • ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง (Lifelong learning and upskilling)
  • พัฒนาระบบการศึกษาทางเลือก เช่น การเรียนการสอนแบบผสมผสาน (Blended learning) และการเรียนรู้ตามอัธยาศัย
  • สร้างความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและภาคธุรกิจในการพัฒนาหลักสูตรและฝึกอบรม
  1. 5. นโยบายด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
  • ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์ในการดูแลผู้สูงอายุและเพิ่มประสิทธิภาพในภาคการผลิต
  • พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อเชื่อมโยงบริการสำหรับผู้สูงอายุและครอบครัว
  • สนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อรองรับสังคมสูงวัย เช่น เทคโนโลยีสุขภาพ และ assistive technologies
  1. นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน
  • ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพและลดการปล่อยมลพิษ
  • ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ
  • พัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities) ที่ใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
  1. นโยบายด้านการย้ายถิ่นและแรงงานต่างชาติ
  • พัฒนาระบบคัดกรองและจัดการแรงงานต่างชาติที่มีประสิทธิภาพ
  • สร้างแรงจูงใจเพื่อดึงดูดแรงงานทักษะสูงจากต่างประเทศ เช่น การให้วีซ่าพิเศษ สิทธิประโยชน์ ทางภาษี
  • ส่งเสริมการบูรณาการทางสังคมของแรงงานต่างชาติ ผ่านการศึกษาภาษาและวัฒนธรรมไทย
  • พัฒนานโยบาย "Massive Immigration Policy" ที่มีการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
  1. นโยบายด้านความเท่าเทียมและการลดความเหลื่อมล้ำ:
  • พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขและการศึกษาในพื้นที่ห่างไกล
  • ส่งเสริมการกระจายรายได้ผ่านระบบภาษีและสวัสดิการสังคม
  • สนับสนุนการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับทุกกลุ่มประชากร
  • พัฒนานโยบายที่ตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้พิการ ชนกลุ่มน้อย

ทั้งนี้ การนำนโยบายเหล่านี้ไปปฏิบัติ จำเป็นต้องมีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม เพื่อให้สามารถรับมือกับความท้าทายในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามอ่านบทความวิจัยสั้น (Research brief) จากงานประชุมได้ที่ https://ipsr.mahidol.ac.th/post_research/ipsrconference2024/

ที่มา: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล

สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 18 ประชากรและสังคม 2567

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version