ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีประกาศ กทม. เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด กัญชา กัญชง กระท่อม บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอบายมุขของโรงเรียนสังกัด กทม. และประกาศ กทม. เรื่อง แนวทางปฏิบัติเมื่อพบบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวน้ำยา/น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา ซึ่ง สนศ. ได้แจ้งประกาศดังกล่าวให้สำนักงานเขตแจ้งโรงเรียนในสังกัด กทม. ทราบและถือปฏิบัติเรียบร้อยแล้ว โดยให้โรงเรียนบูรณาการสอดแทรกความรู้ในการจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับโทษ พิษภัย และอันตรายของยาเสพติด กัญชา กัญชง กระท่อม บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอบายมุข หรือจัดกิจกรรมรณรงค์ในวันสำคัญต่าง ๆ โดยเน้นให้นักเรียนมีส่วนร่วม เพื่อให้นักเรียนรู้เท่าทันสถานการณ์ ปัญหา และมีภูมิคุ้มกันตนเองอันเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจโดยใช้กระบวนการกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ร่วมกับโครงการ TO BE NUMBER ONE และโครงการกิจกรรมของหน่วยงาน/องค์กรอื่น ๆ ที่เป็นภาคีเครือข่าย สนับสนุนโรงเรียนให้ครูและนักเรียน เป็นแกนนำขับเคลื่อนงานและสนับสนุนให้จัดตั้งศูนย์ หรือชมรมภายในโรงเรียนบริการให้คำปรึกษา "เพื่อนช่วยเพื่อน" บูรณาการร่วมกับโครงการ TO BE NUMBER ONE
นอกจากนั้น ได้ขอความร่วมมือโรงเรียนในสังกัดทุกระดับขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน โดยให้โรงเรียนนำไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อป้องกันการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบและสร้างความรู้ความเข้าใจโทษและพิษภัยของผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ โดยมีมาตรการให้โรงเรียนขอความร่วมมือร้านค้ารอบโรงเรียนไม่ให้จำหน่ายยาเสพติด กัญชา กัญชง กระท่อม บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนสิ่งเสพติดและอบายมุขอื่นใดแก่นักเรียน และรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้เรื่องอันตรายของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าที่มีต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก รวมทั้งการทำบ้านให้ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าแก่ผู้ปกครองในกิจกรรมเยี่ยมบ้าน กิจกรรมประชุมผู้ปกครอง กิจกรรมรณรงค์ในเทศกาลต่าง ๆ ในชุมชน เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาโรงเรียนสังกัด กทม. ทั้ง 437 โรงเรียน ได้ดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: กรุงเทพมหานคร