อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นย้ำว่าปุ๋ยและชีวภัณฑ์ที่จะส่งถึงมือเกษตรกร ต้องมีคุณภาพ ในขั้นตอนการดำเนินงานในโครงการฯ ต้องสามารถตรวจสอบได้ ในส่วนของกรมวิชาการเกษตร จะตรวจสอบรับรองการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ โดยปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการฯ ต้องเป็นปุ๋ยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนหรือหนังสือสำคัญรับแจ้งถูกต้องตามพระราชบัญญัติปุ๋ย และชีวภัณฑ์ ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนถูกต้องตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย โดยผู้ผลิตต้องมีใบอนุญาตผลิต ใบสำคัญขึ้นทะเบียน และรายงานผลการวิเคราะห์ปุ๋ยหรือชีวภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการ กรมวิชาการเกษตรจะตรวจสอบและสุ่มตัวอย่างปุ๋ยและชีวภัณฑ์ ณ สถานที่ผลิต และ จุดกระจายสินค้า การตรวจวิเคราะห์คุณภาพ ณ ห้องปฏิบัติการตามที่โครงการกำหนด ซึ่งมีทั้งห้องปฏิบัติการของทางราชการ ห้องปฏิบัติการที่กรมวิชาการเกษตรให้การรับรอง และห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025 ที่มีศักยภาพในการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ปุ๋ย
กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช จะทำงานร่วมกันเชิงป้องปราม ทั้งเชิงรับ และเชิงรุก ในการทำงานเชิงรับจะการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ ส่วนเชิงรุกจะดำเนินการลงพื้นที่ไปตรวจทั้งผู้ประกอบกิจการปุ๋ยและชีวภัณฑ์ สถานที่ผลิต และจุดกระจายสินค้า ป้องปราม ติดตาม บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด มุ่งเป้าปุ๋ยและชีวภัณฑ์คุณภาพ ซึ่งกรมวิชาการเกษตรจะเปิดศูนย์ติดตามและปราบปราม (War Room) ร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช โดยในวันที่ 8-9 กรกฎาคม 2567 จะจัดอบรมเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร และเจ้าหน้าที่ กรมการข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบคุณภาพ และสุ่มเก็บตัวอย่างปุ๋ยและชีวภัณฑ์ในโครงการ ให้มีมาตรฐานเดียวกัน พร้อมทั้งจัดประชุมชี้แจงให้กับโรงงานผู้ผลิตปุ๋ยและชีวภัณฑ์ ให้ทราบถึงขั้นตอนการดำเนินการในการควบคุมคุณภาพ การกำกับดูแล และการสุ่มตรวจ ในลำดับต่อไป
"ขอแจ้งเตือนให้ระวังมิจฉาชีพหลอกลวง แอบอ้างการอำนวยความสะดวก ผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการฯ หากมีข้อสงสัยในเรื่องการขึ้นทะเบียน และการขออนุญาตผลิตปุ๋ย สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนสารวัตรเกษตร 1174 หรือ ผู้อำนวยการสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร โทรศัพท์ 085-8263561" อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว
ที่มา: กรมวิชาการเกษตร