กลยุทธ์ดังกล่าวครอบคลุมมุมมองแบบองค์รวมของความท้าทายและโอกาสที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกองค์กรพร็อพเพอร์ตี้กูรู ตามที่ระบุในการประเมินหัวข้อความยั่งยืนที่สำคัญของกรุ๊ปที่ดำเนินการในปี 2566
การประเมินนี้วางรากฐานให้กับ 3 เสาหลักของกลยุทธ์ ได้แก่ การดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน ชุมชนที่เจริญรุ่งเรือง และธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ หลักการทั้งสามนี้เป็นแนวทางการตัดสินใจของพร็อพเพอร์ตี้กูรูโดยมีข้อมูลประกอบและดำเนินการที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งธุรกิจและชุมชน
การดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญเชิงลึกในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของพร็อพเพอร์ตี้กูรู ควบคู่ไปกับข้อมูลและการวิเคราะห์ของบริษัทเพื่อส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับชุมชน ผ่านชุมชนที่เจริญรุ่งเรือง ที่กรุ๊ปให้ความสำคัญในการพยายามสร้างผลิตภัณฑ์ทั้งหมดผ่านระบบการออกแบบที่เข้าถึงได้ และมีนโยบายต่อต้านการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบ ด้วยความเป็นธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ กรุ๊ปดำเนินงานภายใต้กรอบการทำงานที่หลากหลายทั้งด้านความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย จริยธรรม และปฏิบัติตามกฎหมาย
นางดิฌา โกเองกา ดาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดของพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป กล่าวถึงไฮไลต์ของการเปิดตัวกลยุทธ์ Gurus For Good ครั้งนี้ว่า "เราเริ่มให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะเรารู้ว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้องที่ควรทำ ไม่เพียงแต่เพื่ออุตสาหกรรมของเรา แต่เพื่อชุมชนที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ด้วย ตอนนี้เรากำลังปรับแนวทางให้เป็นกิจลักษณะมากขึ้น โดยเน้นย้ำ 3 กลยุทธ์หลักที่ประกอบกันเป็น 'Gurus For Good' ซึ่งกลยุทธ์นี้ได้รวมความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนทั้งในอดีตและปัจจุบันของเราเข้าด้วยกันให้เป็นกรอบการทำงานแบบองค์รวม และเราจะใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานของเราต่อไป"
ไฮไลต์สำคัญจากกลยุทธ์ Gurus For Good และรายงานความยั่งยืน
ความรับผิดชอบในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ
- ภาคอสังหาริมทรัพย์รับผิดชอบในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกประมาณ 40% จึงมีบทบาทสำคัญในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ ในฐานะผู้นำตลาดระดับภูมิภาค พร็อพเพอร์ตี้กูรูทุ่มเทในการสนับสนุนความพยายามนี้ โดยทำงานอย่างแข็งขันเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ GHG footprint
- ในปี 2566 พร็อพเพอร์ตี้กูรูได้ประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ของบริษัท เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น โดยขอบเขตสำคัญที่ได้รับการประเมินประกอบด้วย การเดินทางเพื่อธุรกิจ บริการคลาวด์ และแนวปฏิบัติในการเดินทางมาทำงานและการทำงานทางไกลของพนักงาน
- การระบุแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุด เช่น การเดินทางเพื่อธุรกิจและบริการคลาวด์ ช่วยให้สามารถจัดลำดับความสำคัญของความพยายามในการลดมลพิษ ปูทางไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับชุมชนทั้งหมด
สร้างชุมชนสำหรับทุกคน
- ที่พร็อพเพอร์ตี้กูรู แนวคิด DEI หรือความหลากหลาย ความเสมอภาค และการไม่แบ่งแยก (ย่อมาจาก Diversity, Equity and Inclusion) ไม่ได้เป็นเพียงข้อบังคับเชิงกลยุทธ์ แต่เป็นผลลัพธ์ตามธรรมชาติของกระบวนการสรรหาบุคลากรที่เป็นธรรมและโปร่งใส เป้าหมายคือการสร้างแพลตฟอร์มที่ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสถานที่ทำงานที่หลากหลายและครอบคลุมสำหรับทุกคน
- พร็อพเพอร์ตี้กูรูภาคภูมิใจในความหลากหลายของบุคลากรที่กระจายอยู่ใน 5 ประเทศและเป็นตัวแทนมากกว่า 35 สัญชาติ ในแง่ของความหลากหลายทางเพศ กรุ๊ปมีสัดส่วนพนักงานหญิง 63% ในระดับกลุ่มบริษัท, 43% ในระดับผู้บริหาร และ 33% ในระดับคณะกรรมการบริษัท
- พร็อพเพอร์ตี้กูรูมุ่งมั่นที่จะต่อต้านการเลือกปฏิบัติในทุกรูปแบบ โดยมีแนวปฏิบัติหลากหลายแนวทาง ประกอบด้วย หลักเกณฑ์การโฆษณาที่เข้มงวด เครื่องมือกลั่นกรองภาษา และฟีเจอร์ 'รายงานประกาศ' ซึ่งช่วยลดการเลือกปฏิบัติอย่างมีนัยสำคัญ และส่งเสริมตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น
โซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
- The Liveability Index by PropertyGuru Group หรือดัชนีความสามารถในการอยู่อาศัย โครงการนำร่องในมาเลเซีย ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตในบริเวณใกล้เคียง โดยพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัย สิ่งอำนวยความสะดวก สภาพแวดล้อม การเข้าถึงระบบขนส่ง และโอกาสในการทำงาน สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีข้อมูลในการตัดสินใจ และสนับสนุนการทำงานของนักวางผังเมืองและผู้พัฒนาอสังหาฯ
- พร็อพเพอร์ตี้กูรูจัดทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ โดยการรวมภาพถ่ายดาวเทียมเข้ากับการสร้างแบบจำลองที่ซับซ้อน การประเมินนี้ระบุความเสี่ยงของน้ำท่วม พายุ ความร้อนสูง และเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วอื่น ๆ ของทุกสถานที่ภายใต้สถานการณ์ด้านสภาพภูมิอากาศและช่วงเวลาที่หลากหลาย การวิเคราะห์นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในประเทศมาเลเซีย ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมซ้ำซากก่อให้เกิดความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญ
- ด้วยการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศเหล่านี้ ลูกค้าของพร็อพเพอร์ตี้กูรูจะเข้าใจผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อโครงการและทรัพย์สินของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้สามารถตัดสินใจโดยมีข้อมูลเพื่อลดความเสี่ยง มีการพัฒนาที่รองรับอนาคต และยกระดับกลยุทธ์การลงทุนของพวกเขา
Connect the dots ปูทางสู่ความยั่งยืนผ่านกูรูชาวไทย
ในประเทศไทย พร็อพเพอร์ตี้กูรูได้ส่งต่อรากฐานความยั่งยืนไปยังบริษัทในเครืออย่างดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) ผ่านนโยบายที่มุ่งเน้นแนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนทั้งภายในและภายนอก รณรงค์ให้บุคลากรหันมาตระหนักถึงความสำคัญของความยั่งยืนในมิติต่าง ๆ โดยเริ่มตั้งแต่กิจกรรมพื้นฐานที่ส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตประจำวัน อย่างนโยบายประหยัดพลังงานในสำนักงานเพื่อให้ทุกคนใช้น้ำและไฟอย่างรู้คุณค่า การใช้เครื่องย่อยสลายเศษอาหารและเปลี่ยนเป็นปุ๋ยหมักเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะเรือนกระจก นอกจากนี้ ยังขับเคลื่อนพันธกิจความยั่งยืนผ่านกิจกรรมรักษ์โลกและช่วยเหลือสังคมที่หลากหลาย อาทิ
- สร้าง Challenges ลดการใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง ให้ทุกคนเริ่มต้นปฏิบัติภารกิจรักษ์โลกได้ง่าย ๆ ด้วยการท้าทายตนเองในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และเชิญชวนให้หันมาใช้ขวดน้ำและภาชนะบรรจุอาหารที่สามารถใช้ซ้ำได้
- เชิญชวนชาวกูรูในประเทศไทยร่วมแข่ง Challenges ลดโลกร้อนกับประเทศต่าง ๆ ด้วยการใช้แอปพลิเคชันติดตามคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก ผ่านการติดตามกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกในชีวิตประจำวัน
- เปิดโอกาสให้กูรูทุกคนสามารถเลือกใช้วันหยุด 3 วันต่อปี ในการเป็นอาสาสมัครหรือทำกิจกรรมจิตอาสา เพื่อช่วยเหลือสังคมหรือสิ่งแวดล้อมตามที่แต่ละคนให้ความสนใจได้
- ขณะเดียวกัน ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บุคลากรได้ใช้เวลาทำกิจกรรมดี ๆ เหล่านี้ร่วมกัน โดยมีรูปแบบกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ กิจกรรมเก็บขยะที่ชายหาดเนื่องในวันคุ้มครองโลก (Earth Day), กิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและปลูกป่าชายเลน หรือการบริจาคอาหารกลางวันและอุปกรณ์การเรียนให้กับเด็กด้อยโอกาสในมูลนิธิและองค์กรไม่แสวงหากำไร พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้กับโค้ชมืออาชีพ
ทั้งนี้ บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับพนักงานมาเป็นอันดับแรก โดยดำเนินนโยบาย Hybrid work อย่างต่อเนื่อง ให้พนักงานสามารถเลือกทำงานได้ทั้งจากออฟฟิศ หรือบ้านได้ตามไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคล เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว (Work-Life Balance) ได้ดียิ่งขึ้น
โครงการเหล่านี้สอดคล้องกับความพยายามของพร็อพเพอร์ตี้กูรูในการสร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจและส่งเสริมพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน เพราะเราเชื่อว่าการมีสุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดี (Well-being) ในองค์กรจะช่วยสนับสนุนให้ชาวกูรูพร้อมพัฒนานวัตกรรมและบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้ใช้งานทุกท่าน และเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนชุมชนต่าง ๆ เพื่อการอยู่อาศัย การทำงาน และพัฒนาสู่ความเป็นเมืองแห่งอนาคตต่อไป
ที่มา: FAQ