โดยในพิธีเคลื่อนขบวนอัญเชิญ "พระพุทธรูป และ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙" จากศาลากลางหมู่บ้านโพง สู่โรงเรียนบ้านโพง ในช่วงเย็นหลังเลิกเรียน พร้อมกับตั้งองค์พระพุทธรูป และ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ บริเวณหน้าเสาธงโรงเรียนบ้านโพง หลังจากนั้นประกอบพิธีเจิมพระพุทธรูป และ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ โดย พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ ประกอบพิธีทางศาสนาพร้อมสวดมนต์เจริญชัยมงคลคาถา ต่อด้วยเจ้าหน้าที่ อัญเชิญพระพุทธรูป และ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ขึ้นประดิษฐานบนแท่นฐานเสาธง ประกอบพิธีคล้องมาลัยกรองค์พระพุทธรูป และ พระบรมรูป ร.๙ โดย ดร.อภิชา ระยับศรี ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมนักร้องลูกทุ่งแห่งประเทศไทย ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ประธานสงฆ์กล่าวสัมโมทนียกถา โดยช่วงดังกล่าว ข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ นางรำ แขกผู้มีเกียรติ และนักเรียน เข้าแถวเคารพธงชาติ ต่อด้วย การแสดงรำอวยพร โดยคณะนางรำจากชุมชนนครติม/ชุมชนบ้านโพง โคกสำราญและจะลง
ดร.อภิชา ระยับศรี ประธานฝ่ายฆารวาส กล่าวเปิดเผยว่า นับเป็นบุญใหญ่อีกครั้งที่ชาวศรีสะเกษ ได้ร่วมกันสร้างพระพุทธรูป และ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ มาประดิษฐานบนแท่นฐานเสาธงของโรงเรียนบ้านโพง ตำบลสะเดาใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ครั้งนี้ เราได้เห็นความร่วมมือ ร่วมใจ จากทุกภาคส่วน รวมทั้งพิธีปลูกป่า เฉลิมพระเกียรติ โดยท่านพระราชพัชรธรรมเมธี เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ วัดมหาธาตุ พระอารามหลวง พร้อมด้วย นายวิสุทธิชาติ ปัญญาทรงรุจิ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ และแขกผู้มีเกียรติ ที่มาร่วมงานครั้งนี้ โดยแต่งกายชุดผ้าไทย พร้อมกับชุดผ้าพื้นเมือง โทนสีเหลือง มาร่วมงานกันอย่างพร้อมหน้า ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อให้ลูกหลานได้มีสิ่งยึดเหนี่ยวและศักการะบูชาสืบต่อไป"
ที่มา: สำนักข่าวการศึกษาไทย
