กลุ่ม STI แรงไม่หยุด! ชนะประมูลงานวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวง มูลค่างานจ้างที่ปรึกษารวม 86.2 ล้านบาท

พุธ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ๑๗:๒๕
นายไพบูลย์ โชคไพรสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด (AEC) ในกลุ่ม บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ผู้นำในกลุ่มธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร ลงนามสัญญา ร่วมกับกรมทางหลวง หลัง AEC ชนะประมูล 2 โครงการ มูลค่างานจ้างที่ปรึกษารวม 86.2 ล้านบาท จากศักยภาพในการบริหารงาน และความเชี่ยวชาญที่ได้รับความไว้วางใจเสมอมา ประกอบด้วย โครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 11 สาย อ.อินทร์บุรี - อ.สากเหล็กตอน บ.หนองบัวทอง - บ.หนองขว้าว มีระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ซึ่งเป็นค่าจ้างที่ปรึกษา 37.4 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาดำเนินงาน 450 วัน ซึ่งทางหลวงหมายเลข 11 เป็นทางหลวงแผ่นดินที่เชื่อมโยงระหว่างภาคกลางและภาคเหนือ และปัจจุบันมีปริมาณจราจรที่สูงขึ้น จำเป็นต้องก่อสร้างเพิ่มช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทางขนส่งคนและสินค้า ลดต้นทุนโลจิสติกส์ โครงการผ่านพื้นที่อ่อนไหวทางด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมข้างต้น ทั้งนี้ เพื่อให้การพัฒนาโครงการก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่โครงการน้อยที่สุด
กลุ่ม STI แรงไม่หยุด! ชนะประมูลงานวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวง มูลค่างานจ้างที่ปรึกษารวม 86.2 ล้านบาท

และโครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สาย ชุมพร - ระนอง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน หรือ โครงการแลนด์บริดจ์ (Landbridge) เพื่อให้การเดินทางขนส่งของโครงการแลนด์บริดจ์ มีโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรองรับได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย จำเป็นต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบรางและถนน (ในส่วนของระบบราง เป็นทางรถไฟ 4 ทาง Meter Gauge 2 ทาง และ Standard Gauge 2 ทาง) ให้อยู่ในแนวระเบียง (Corridor) เดียวกัน ภายใต้แนวคิด One Port Two Side ที่จะมีโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบรางและถนน สำหรับเชื่อมท่าเรือฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน รวมถึงเพื่อให้ท่าเรือน้ำลึกทั้ง 2 ฝั่ง สามารถดำเนินการตามบทบาทท่าเรือของโครงการ โดยมีเส้นทางเชื่อมโยงท่าเรือทั้ง 2 แห่ง ระยะทางประมาณ 87.50 กิโลเมตร โดยในส่วนของระบบถนนนี้ เบื้องต้นจะเป็นทางหลวงพิเศษขนาด 6 ช่องจราจร โดยมีค่าจ้างที่ปรึกษา 48.8 ล้านบาท ระยะเวลาการดำเนินงาน 360 วัน

ที่มา: IR PLUS

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ