นายเจษฎา ทรัพย์เจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด เผยว่า ไดกิ้น ดำเนินธุรกิจโดยยึดเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ได้รับความไว้วางใจจากสังคม เราจึงผลักดันให้บริษัทเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ในสังคม โดยเฉพาะด้านการศึกษา รวมถึงการส่งเสริมด้านอาชีพ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีที่เข้าถึงชุมชนในทุกระดับ ซึ่งครั้งนี้ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด ได้ร่วมกับ "กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ระดับเขตห้วยขวาง" ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) จัดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีพแก่ผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา ผ่านโครงการ "ไดกิ้น ช่างแอร์ดีดี ชุมชน" ภายใต้แนวคิดผนึกกำลังเพื่อพัฒนาทักษะด้านเครื่องปรับอากาศสำหรับใช้ในการทำงาน เพื่อสร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คนในชุมชนอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการ "Think Earth Urban Action" ร่วมกับ บริษัท สยามกลการ จำกัด
อีกทั้ง ไดกิ้นยังมุ่งหวังให้โครงการ "ไดกิ้น ช่างแอร์ดีดี ชุมชน" เป็นอีกความร่วมมือที่ช่วยต่อยอดด้านการรักษาสภาพแวดล้อม เนื่องจากไดกิ้นเห็นว่าชุมชนขนาดเล็กมักประสบปัญหาคล้ายคลึงกันในเรื่องการเดินทางเข้าไปซ่อมบำรุงเครื่องปรับอากาศตามที่อยู่อาศัย เนื่องจากสภาพถนนในชุมชนที่ไม่สะดวกแก่การสัญจรโดยรถยนต์ จนส่งผลกระทบให้หลายครอบครัวต้องใช้เครื่องปรับอากาศที่ขาดการบำรุงรักษา ทำให้เครื่องปรับอากาศใช้พลังงานไฟฟ้าสูงและเสี่ยงต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น ซึ่งจะสร้างผลเสียในเรื่องของความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality
การลงนาม MOU โครงการ "ไดกิ้น ช่างแอร์ดีดี ชุมชน" ไดกิ้นได้ร่วมมอบเครื่องปรับอากาศและเครื่องมือล้างทำความสะอาด จำนวน 4 ชุด พร้อมจัดการอบรมในเนื้อหาหลักสูตรที่มุ่งเน้นให้ผู้ผ่านการอบรมสามารถนำความรู้และเทคนิคที่ได้จากโครงการฯ ไปใช้ประกอบอาชีพอย่างมีคุณภาพ โดยครั้งนี้ เราได้จัดอบรมขึ้นที่ชุมชนพระราม 9 ณ มูลนิธิบ้านพระพร และชุมชนลาดพร้าว 45 และจะนำรูปแบบของโครงการขยายไปยังชุมชนอื่นอย่างต่อเนื่อง
"นอกเหนือจากเป้าหมายหลักในการพัฒนาความเป็นอยู่ในชุมชนให้ดีขึ้นแล้ว ไดกิ้นยังมุ่งหวังถึงผลลัพธ์จากเครือข่ายช่างระดับชุมชน ซึ่งเป็นฐานสำคัญที่ช่วยให้เครื่องปรับอากาศสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างต่อเนื่องในระยะยาว จนนำไปสู่การสร้างอากาศสะอาดอย่างสมบูรณ์แบบ หรือ Net Zero ที่เราตั้งเป้าให้สำเร็จภายในปี 2050" นายเจษฎา ทรัพย์เจริญ เสริมทิ้งท้าย
ที่มา: FourHundred