ดร.วรพงษ์ สินสุขถาวร ผู้จัดการฝ่ายแผนงาน EGCO Group หนึ่งในผู้ร่วมเสวนาจากภาคเอกชน เปิดเผยว่า"EGCO Group มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม ให้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน มากว่า 32 ปี โดยให้ความสำคัญกับการดูแลด้านความหลากหลายทางชีวภาพตลอดห่วงโซ่อุปทานของการดำเนินงาน พร้อมกันนี้ ได้กำหนดนโยบายและตั้งเป้าหมายในการขับเคลื่อนด้านความหลากหลายทางชีวภาพ 3 ด้าน ได้แก่ 1) ไม่ก่อให้เกิดความสูญเสียคุณค่าด้านความหลากหลายทางชีวภาพสุทธิ (No Net Loss) และมุ่งมั่นลดผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพจากกิจกรรมตลอดทั้งวงจรชีวิตของโรงไฟฟ้า 2) สร้างผลกระทบด้านความหลากหลายทางชีวภาพสุทธิเชิงบวก ในทุกการดำเนินงานและตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Net Positive Impact) และ 3) หลีกเลี่ยงการดำเนินงาน การสำรวจ การควบรวมและเข้าซื้อกิจการโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ใกล้กับพื้นที่ที่เป็นเขตป้องกันขององค์การระหว่างประเทศเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ (The International Union for Conservation of Nature: IUCN) หรือเป็นพื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในขณะเดียวกัน EGCO Group ยังร่วมดูแล อนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและป่าต้นน้ำในพื้นที่สำคัญของประเทศไทย ผ่านการดำเนินงานของมูลนิธิไทยรักษ์ป่า มากว่า 22 ปี"
EGCO Group ได้ดูแลความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ที่เข้าไปดำเนินธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ โรงไฟฟ้าขนอม จ.นครศรีธรรมราช ที่มีโครงการจัดทำข้อมูลฐานสัตว์บ่งชี้ความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งด้านประเภท ชนิด จำนวน ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิต ในช่วงก่อนและหลังการก่อสร้างโรงไฟฟ้า รวมถึงมีโครงการสำรวจประชากรโลมา ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูก ด้วยนม ที่เป็นตัวชี้วัดสำคัญด้านความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเล มีความโดดเด่นและมีความสำคัญทางสังคมในด้านการท่องเที่ยวของ อ.ขนอม ในขณะที่โรงไฟฟ้า EGCO Cogeneration จ.ระยอง มีโครงการลดการใช้น้ำที่ใช้ในการหล่อเย็น ด้วยการนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำเพิ่มจาก 8 รอบ เป็น 11 รอบ สำหรับโรงไฟฟ้า Quezon ในฟิลิปปินส์ มีโครงการอนุรักษ์เต่าทะเล ควบคู่กับโครงการฟื้นฟูป่าชายเลนที่ถูกกัดเซาะ ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานลม Boco Rock ในออสเตรเลีย มีโครงการศึกษาระบบนิเวศและร่วมดูแลค้างคาว ซึ่งเป็นสัตว์ประจำถิ่นที่สำคัญ เป็นต้น
นอกจากนี้ EGCO Group ยังได้ดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าต้นน้ำที่สำคัญของประเทศไทย ผ่านมูลนิธิไทยรักษ์ป่า องค์กรสาธารณกุศลที่ EGCO Group ก่อตั้งและสนับสนุนการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2545 เพื่อดำเนินภารกิจ 3 ด้านหลัก ได้แก่ การอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนบนแนวคิด "คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้" ผ่านโครงการ "หมู่บ้านไทยรักษ์ป่า" การสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายชุมชน ผ่าน "เครือข่ายชุมชนไทยรักษ์ป่า" ในหลายพื้นที่ เพื่อพัฒนาศักยภาพของชุมชนในพื้นที่ลุ่มน้ำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการปลูกจิตสำนึกเยาวชนและประชาชน ผ่าน "โครงการเครือข่ายเยาวชนไทยรักษ์ป่า" และ "โครงการพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ"
ทั้งนี้ ภายในงานวันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ ประจำปี 2567 EGCO Group ยังได้ร่วมจัดนิทรรศการการดูแลความหลากหลายทางชีวภาพตลอดห่วงโซ่อุปทานของโรงไฟฟ้าในกลุ่มเอ็กโก ทั้งในและต่างประเทศ และการดำเนินงานของมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานอย่างมาก
ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์