กระบวนการทำงานของ HBOT
- การเพิ่มระดับออกซิเจนในร่างกายเมื่ออยู่ในห้องที่มีแรงดันสูง ผู้ป่วยจะหายใจเอาออกซิเจนบริสุทธิ์เข้าไป ทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดสูงขึ้น
- การเพิ่มการไหลเวียนของเลือดออกซิเจนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณที่มีการบาดเจ็บหรือเนื้องอก
- การกระตุ้นการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อออกซิเจนที่เพิ่มขึ้นสามารถช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อ
ประโยชน์ที่เป็นไปได้ของ HBOT ในการรักษามะเร็ง
- การเสริมประสิทธิภาพการบำบัดด้วยรังสี (Radiotherapy)ออกซิเจนสามารถเพิ่มความไวของเซลล์มะเร็งต่อรังสี ซึ่งทำให้การบำบัดด้วยรังสีมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายจากการบำบัดHBOT สามารถช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายจากการผ่าตัดหรือรังสี เช่น การรักษาแผลหลังผ่าตัดและการลดการอักเสบ
- การลดผลข้างเคียงจากการบำบัดมะเร็งมีบางกรณีที่ HBOT ช่วยลดผลข้างเคียงจากการบำบัดมะเร็ง เช่น การรักษาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบจากรังสี (radiation cystitis) หรือการบำบัดอาการกระดูกเสื่อมจากรังสี (osteoradionecrosis)
ข้อจำกัดและข้อควรระวัง
- ไม่ใช่การรักษาโดยลำพังHBOT ไม่ใช่การรักษามะเร็งโดยลำพัง แต่เป็นการรักษาเสริมที่ใช้ร่วมกับการบำบัดหลักอื่น ๆ เช่น การผ่าตัด การเคมีบำบัด และการบำบัดด้วยรังสี
- หลักฐานทางวิทยาศาสตร์แม้ว่าจะมีการวิจัยบางส่วนที่แสดงถึงผลดีของ HBOT ในการรักษามะเร็ง แต่ยังต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพและกำหนดแนวทางการใช้ที่ชัดเจน
- ความพร้อมในการให้บริการและค่าใช้จ่ายHBOT ไม่ได้มีให้บริการในทุกศูนย์การแพทย์ และอาจมีค่าใช้จ่ายสูง โดยมักใช้ในกรณีที่การบำบัดทั่วไปทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง
การใช้ออกซิเจนแรงดันสูงในการรักษามะเร็งอาจมีประโยชน์ในการเสริมการรักษาและลดผลข้างเคียงจากการบำบัดมะเร็ง แต่ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์และเป็นส่วนหนึ่งของแผนการรักษาที่ครอบคลุม การปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อประเมินว่าการใช้ HBOT เหมาะสมกับสถานการณ์ของผู้ป่วยหรือไม่
บทความโดย นายแพทย์ อัศวเดช แสนบัว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล
ศูนย์ WMC NEW Frontier Cancer Center โทร 02-836-9999
ที่มา: บางกอก เชน ฮอสปิทอล