นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีลงนาม MOU ที่จัดขึ้น ณ กระทรวงแรงงาน กล่าวชื่นชมซีพีเอฟที่แสดงความมุ่งมั่นในการส่งเสริม สนับสนุนให้สถานประกอบกิจการ ตลอดจนห่วงโซ่อุปทาน นำแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดีสำหรับฟาร์มสุกรในประเทศไทยไปใช้บริหารจัดการแรงงานสอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานสากล ซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่สถานประกอบกิจการอื่นต่อไป
นางโสภา เกียรตินิรชา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2566 กรมได้ร่วมมือกับองค์กรนายจ้าง องค์กรลูกจ้าง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนาแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดีสำหรับฟาร์มสุกรในประเทศไทยขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจฟาร์มสุกร นำ GLP (Good Labour Practices) ไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงสภาพการจ้างและสภาพการทำงานของฟาร์มสุกรให้สอดคล้องตามกฎหมายอย่างมีจริยธรรม โดยการลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการขับเคลื่อน เพื่อให้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และกรมพร้อมสนับสนุนความรู้ทางวิชาการและเทคนิคต่าง ๆ แก่ผู้ประกอบการที่สนใจนำแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดีในฟาร์มสุกรไปใช้ในสถานประกอบกิจการ
ด้านนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ เสริมว่า ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการแรงงานในฟาร์มและโรงงานในทุกกลุ่มธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมายและมาตรฐานแรงงานสากลอย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง ดูแลและปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเป็นธรรม บนพื้นฐานของการเคารพสิทธิมนุษยชนและหลักสากล ตลอดจนสนับสนุนคู่ค้าและเกษตรกรในห่วงโซ่อุปทานให้มีหลักปฏิบัติที่ดีต่อแรงงาน ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน เพิ่มขีดการแข่งขันให้สินค้าเกษตรไทยสามารถตอบรับความคาดหวังของผู้บริโภคและสังคม พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน สอดคล้องกับหลักปรัชญาการดำเนินธุรกิจ "3 ประโยชน์" สู่ความยั่งยืน ของเครือซีพีที่ซีพีเอฟทุกคนยึดมั่น ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศ ประชาชน และบริษัท
ทั้งนี้ ซีพีเอฟ ได้จัดการอบรมให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องนำหลัก GLP ไปใช้บริหารจัดการแรงงานในฟาร์มสุกรทั้ง 106 แห่งได้อย่างถูกต้อง และประยุกต์ใช้ให้เกิดความยั่งยืน จนสามารถผ่านการรับรองและได้รับตราสัญลักษณ์ GLP จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน รวมทั้งส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรในโครงการ Contract Farming ประมาณ 4,000 รายทั่วประเทศได้นำหลัก GLP ไปใช้บริหารจัดการแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายและหลักสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคผลิตภัณฑ์อาหารของซีพีเอฟมาจากห่วงโซ่การผลิตที่รับผิดชอบต่อสังคมและโลก
ที่มา: Charoen Pokphand Foods