กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส
นายนพพร วิฑูรชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) (SF) ผู้นำด้านพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าแบบเปิดของไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ส่งโครงการ เจ อะเวนิว เข้าประกวดรางวัล ICSC International Design and Development Awards ครั้งที่ 30 ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติของผู้พัฒนาโครงการศูนย์การค้าระดับโลก และได้รับรางวัลในสาขาศูนย์การค้าขนาดเล็ก โดยมียอดคนเข้าศูนย์กว่า 200,000 คนต่อปี สร้างรายได้ให้กับศูนย์กว่า 200 ล้านบาท
ทั้งนี้รางวัล ICSC Awards มี 2 สาขา คือ สาขา Renovation (สำหรับศูนย์การค้าที่มีอยู่เดิม แต่มีการบูรณะ พัฒนา หรือขยายขนาดศูนย์การค้าให้ใหญ่ขึ้น) และ สาขา Innovation (สำหรับศูนย์การค้าที่สร้างใหม่) โดยในสาขา Innovation แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มย่อย ตามขนาดของศูนย์ คือ ขนาดเล็ก (พื้นที่ต่ำกว่า 150,000 ตารางฟุต) ขนาดกลาง (พื้นที่ระหว่าง 150,000-500,000 ตารางฟุต) ขนาดใหญ่ (พื้นที่มากกว่า 500,000 ตารางฟุต) และขนาดใหญ่พิเศษ ที่ประกอบด้วยหลายอาคาร อาทิ อาคารสำนักงาน โรงแรม อาคารที่พักอาศัย ฯลฯ
เกณฑ์การให้คะแนน คณะกรรมการจะพิจารณาทุกรายละเอียด ตั้งแต่การออกแบบมาสเตอร์แพลนของศูนย์ การออกแบบแผนผังร้านค้า การออกแบบภูมิสถาปัตย์ การออกแบบตกแต่งศูนย์ ความหลากหลายของร้านค้า กระทั่งการจัดไฟ การวางป้ายบอกทางในศูนย์ ไปจนถึงอัตราค่าเช่าพื้นที่ ยอดขายพื้นที่ และการยอมรับของผู้บริโภค
“รางวัล ICSC Awards ถือเป็นรางวัลระดับโลก ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในวงการช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ว่า เป็นรางวัลที่ได้มายากมาก เพราะมีการแข่งขันสูง เกณฑ์การให้คะแนนโหด มีเงื่อนไขมากมาย และที่สำคัญต้องฝ่าด่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการ และชิงชัยกับศูนย์การค้าที่เข้าร่วมประกวดอีกกว่าหลายร้อยศูนย์จากทั่วโลก การได้รับรางวัลจากการประกวดในครั้งนี้ นับเป็นพัฒนาการที่สำคัญของธุรกิจช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ในเมืองไทย อีกทั้งเป็นความภูมิใจอย่างมากของบริษัทเช่นกัน”นายนพพร กล่าว
ส่วนผู้ออกแบบโครงการ เจ อะเวนิว ให้เป็นที่ยอมรับและได้รับการตัดสินให้ได้รับรางวัลในครั้งนี้ คือ บริษัท คอนทัวร์ จำกัด และดำเนินการก่อสร้างโดย บริษัท ช. รุ่งเลิศ กรุ๊ป จำกัดขณะที่บริษัทผู้ดูแลการให้เช่าพื้นที่ ได้แก่ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาล ประเทศไทย จำกัด
นายนพพร กล่าวต่อไปถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2550 ว่า บริษัทจะใช้งบประมาณสำหรับลงทุนในโครงการใหม่จำนวน 1,000 ล้านบาท โดยจะทำการเปิดศูนย์ใหม่จำนวน 5 ศูนย์ ประกอบด้วย พัทยา ,รัชโยธิน ,เกษตร-นวมินทร์ ,เมอคิวรี่ ทาวเวอร์ และสุขาภิบาล 1
สำหรับอัตราการเติบโตของจำนวนพื้นที่เช่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 274,000 ตารางเมตร จากในปี 2549 ซึ่งมีพื้นที่เช่าจำนวน 190,000 ตารางเมตร หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 44% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของพื้นที่เช่าดังกล่าวจะส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามเช่นกัน โดยคาดว่าในปีนี้รายได้รวมของบริษัทจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 23%
“กลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทในปีนี้จะมุ่งเน้นเรื่องการออกแบบรูปแบบของศูนย์การค้าที่ทันสมัย ถูกต้องตามหลักวิชาการด้านการพัฒนาและบริหารศูนย์การค้า รวมทั้งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เช่าพื้นที่ทุกราย จัดรายการส่งเสริมการขายเพื่อเพิ่มยอดขายแก่ผู้เช่าพื้นที่เป็นระยะๆ ที่สำคัญเรารักษาจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ ไม่ทำธุรกิจที่แข่งขันกับลูกค้าผู้เช่าพื้นที่ภายในศูนย์ ไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงการและสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ ในอนาคต ที่จะเป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจของผู้เช่าพื้นที่ทุกราย ตลอดอายุสัญญาเช่าระยะยาว 10-30 ปี”นายนพพร กล่าว
นอกจากนี้จะทำการสรรหาพื้นที่เพื่อดำเนินโครงการตามความต้องการของลูกค้า ควบคุมดูแลการก่อสร้างให้ได้มาตรฐาน ว่าจ้างนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ สถาปนิก ผู้รับเหมาก่อสร้าง บริษัทรักษาความปลอดภัย บริษัทรักษาความสะอาด และที่ปรึกษาอื่นๆ ที่มีมาตรฐาน และมีความเป็นมืออาชีพสูง บริษัทจะไม่พัฒนาและบริหารโครงการมากจนเกินกว่าที่จะสามารถควบคุมมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจได้ จะรับโครงการเพิ่มเติมก็ต่อเมื่อมีจำนวนบุคลากรที่มีความสามารถและมีประสบการณ์เพียงพอที่จะรักษามาตรฐานในการดำเนินธุรกิจให้อยู่ในระดับเดิมหรือดีขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
อลิซาเบท วงศ์วาสิน
คชภพ สงวนวงศ์
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน)
โทร 0-2662-2266