นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การรังวัดออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ประเภทที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน และใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ เพื่อแสดงเขตที่ดินของรัฐไว้เป็นหลักฐาน เป็นภารกิจของกรมที่ดินที่มีความสำคัญ ซึ่งปัจจุบันยังมีที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ได้ นำขึ้นทะเบียนที่สาธารณประโยชน์ไว้แต่ยังไม่ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงอีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับสถานะที่ดินตามทะเบียนที่สาธารณประโยชน์ ตำแหน่งที่ตั้ง ตลอดจนแนวเขตที่ดิน นำไปสู่ข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐ กับประชาชน และหน่วยงานของรัฐด้วยกันเอง
การบูรณาการความร่วมมือในการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในครั้งนี้ เป็นกลไกหนึ่งที่จะบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างความเข้าใจ การรับรู้ และความชำนาญงานของแต่ละส่วนงาน โดยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการ มีการหารือร่วมกันเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางการตรวจสอบทะเบียน ตำแหน่ง แนวเขตที่ตั้งของที่ดินสาธารณประโยชน์เพื่อออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงได้ครอบคลุมทั่วประเทศ สามารถแก้ไขปัญหาและลดข้อพิพาทเกี่ยวกับแนวเขตที่ดินระหว่างหน่วยงานของรัฐกับประชาชน และหน่วยงานของรัฐด้วยกัน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติต่อไป
นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมที่ดิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
จากข้อมูลตามทะเบียนที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ยังไม่ได้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงทั้งประเทศ จำนวน 16,209 แปลง เนื้อที่ประมาณ 11.9 ล้านไร่ ไม่ปรากฏรูปแปลงในระวางแผนที่ สาเหตุบางส่วนอาจเกิดจากเจ้าหน้าที่ขึ้นทะเบียนที่สาธารณประโยชน์ไว้ แต่เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบกลับไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ ซึ่งอาจจะทับซ้อนกับแนวเขตที่ดินของเอกชน หรือของรัฐด้วยกันเอง ทำให้เกิดปัญหาในการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงและการจำหน่ายทะเบียนที่สาธารณประโยชน์ อันอาจก่อให้เกิดปัญหาการทุจริตหรือการกระทำที่ผิดกฎหมายได้ กรมที่ดิน จึงต้องผนึกกำลัง ทั้ง 7 หน่วยงาน ร่วมกันบูรณาการความร่วมมือในการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐให้มีประสิทธิภาพและเกิดความยั่งยืนต่อไป
ที่มา: กรมที่ดิน