"Golden Child" ไอเดียมาจากเรื่องจริงของความบอบช้ำทางจิตใจจาก Golden Child Syndrome อยากที่จะก้าวข้ามผ่านความรู้สึกของตัวเองว่าเราควรยอมรับความแตกต่างทางความคิดที่ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกอ่อนแอที่สุดแต่ก็กล้าหาญในเวลาเดียวกัน โดยมี Paul Bee Hampshire (Bee Futon) มาช่วยปรับเนื้อร้องการเล่าเรื่องของเพลงนี้ให้เป็น Positive มากขึ้น ผสมกับเนื้อเพลงติดหูในท่อนฮุคที่ว่า "I can still hear voices, I don't wanna talk anymore!" ที่ช่วยสรุปคอนเซปต์ของเพลงนี้ได้ลงตัว และเพลงนี้ได้ "คิด-ศุภกิจ ฟองธนกิจ" รับหน้าที่โปรดิวซ์ในเรื่องของซาวน์ดีไซน์ที่อัพบีทให้หนักแน่น มีจังหวะสนุก เข้าถึงได้ง่าย และมีความเท่ของดนตรีที่ชัดเจน ส่งไปกับความรู้สึกไม่พอใจ และ ประชดประชัน นอกจากพาร์ทดนตรีที่มีเสน่ห์แล้ว มิวสิกวิดีโอยังถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของเพลง โดยเปรียบเทียบ "Golden Child" มาจากศัตรูที่อยู่ภายในตัวเองทำให้เกิดเมล่าเมอีกคนขึ้นมา เป็นคนที่จะไม่ยอมคิดลบกับตัวเองอีกแล้ว ใน MV จะมีเมล่าเม 2 คาแรคเตอร์ คือ เป็นทั้งคนเก่าที่ถูกตีกรอบ และคนใหม่ที่เป็นจิตใต้สำนึก ที่อยากหนีออกไป ซึ่งคนๆ นี้ จะเป็นคนที่ช่วยให้คนที่อยู่ในกรอบทางความคิดหนีออกมา โดยนำตัวละครเปรียบเทียบกับเจ้าหญิงที่เธอจะต้องคอยอยู่ในกรอบ ขณะที่ต้องวิ่งไล่ตามความฝันและค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเธอ แต่ในที่สุดเธอก็ทำในสิ่งที่อยากทำและเป็นตัวของตัวเองได้สำเร็จ! ยังไงก็ขอฝากเพลง "Golden Child" ให้เป็นตัวแทนของคนที่อยากจะก้าวข้ามความกลัวไป ทำในสิ่งที่อยากทำ และเป็นในสิ่งที่อยากเป็นนะคะ เพราะถ้าเรามีความมั่นใจและตัดสินใจที่จะทำแล้ว ก็สามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่และใช้ชีวิตในสังคมให้มีความสุขได้ ขอบคุณค่ะ
ติดตามชม MV เพลง "Golden Child" : https://www.youtube.com/watch?v=Vxp_tAEEcQA
สามารถฟังเพลง "Golden Child" ได้ทุกช่องทางสตรีมมิ่งและดาวน์โหลด : https://MellaMay.lnk.to/GoldenChild
ติดตามผลงานของ MellaMay ได้ที่ : https://mellamay.lnk.to/profile
ที่มา: chantp
