นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์, CFA, Chief Investment Officer บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย จัดตั้งกองทุนใหม่ชื่อว่า กองทุนเปิดเค โกลบอล ซีเล็คท์ หรือ K-GSELECT ที่ลงทุนในหุ้นทั่วโลกด้วยกลยุทธ์ Core Equity มุ่งหาโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในทุกช่วงเวลา ผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Global Select Equity ETF โดยเปิดขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 - 7 สิงหาคม 2567
นายวจนะกล่าวต่อไปว่า ความน่าสนใจของกองทุน K-GSELECT อยู่ที่กลยุทธ์การลงทุนแบบ Core Equity โดยมีทีม JPMAM Research วิเคราะห์ครอบคลุมหุ้นทั่วโลกกว่า 2,500 ตัว เพื่อคัดเลือกหุ้นที่ดีที่สุดเพียง 70-100 ตัว ที่สามารถเอาชนะดัชนีชี้วัด MSCI World ได้อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งหุ้นเติบโต (Growth Stock) และหุ้นคุณค่า (Value Stock) เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในทุกสภาวะตลาด อาทิ Microsoft ผู้นำระบบ Cloud Computing ที่ใหญ่ที่สุดในโลก TSMC ผู้ผลิตชิปรองรับเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ของโลก LVMH บริษัทเจ้าของแบรนด์เนมระดับโลก และ Nestle บริษัทเจ้าของแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก เป็นต้น (ข้อมูล ณ พ.ค. 2567, J.P. Morgan Asset Management)
"เศรษฐกิจโลกในไตรมาสที่ 3 โดยเฉพาะสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เงินเฟ้อกำลังปรับตัวลดสู่เป้าหมายที่ 2% อย่างค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับแนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนที่สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่าจะเติบโตได้ 11% และ 14% ในปี 2024 และ 2025 ตามลำดับ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความน่าสนใจต่อการเข้าลงทุน แม้ว่าในระยะสั้นอาจมีความผันผวนจากประเด็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีอยู่บ้าง ส่วนตลาดหุ้นยุโรปมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และทิศทางการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป" นายวจนะกล่าว (ที่มา: มุมมองการลงทุน "Know The Markets" ประจำไตรมาส 3 ปี 2567, บลจ.กสิกรไทย)
นายวจนะกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน K-GSELECT เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นทั่วโลก โดยไม่ต้องคอยเลือกหุ้นเป็นรายประเทศหรือรายภูมิภาค และผู้ที่ต้องการเข้าลงทุนได้ทุกช่วงเวลา โดยไม่ต้องจับจังหวะตลาดด้วยตัวเอง ทั้งนี้ กองทุนมีให้เลือกลงทุนได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ 1) K-GSELECT ที่จะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน แนะนำให้กับผู้ที่ต้องการลดความผันผวนอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน และ 2) K-GSELECTU ที่จะไม่มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน แนะนำให้กับผู้ที่ต้องการหาโอกาสทำกำไรที่เพิ่มขึ้น หากค่าเงินยังแข็งค่าต่อไปในอนาคต
พิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อในช่วง IPO จะได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมการขาย หรือ ค่าธรรมเนียมเมื่อซื้อ (Front-End Fee) จาก 1.5% เหลือ 1% เริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ซื้อง่ายอย่างปลอดภัยด้วย App K PLUS และ K-My Funds หรือ ธนาคารกสิกรไทย และ ผู้แทนสนับสนุนการขาย ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกช่องทางของกสิกรไทย หรือ ผู้แทนสนับสนุนการขาย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888 และศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองได้ที่ www.kasikornasset.com
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
ที่มา: บลจ.กสิกรไทย