นายเมฆ มนต์เสรีนุสรณ์ รองกรรมการผู้จัดการด้านการตลาดและพัฒนาธุรกิจ KIAT เปิดเผยว่างานที่จะทำการโอนไปยังมูลนิธิฯ ได้แก่งานด้านการตรวจสอบสถานะรถและอุปกรณ์ In-Vehicle Monitoring System ได้แก่ GPS Tracking, การเฝ้าสังเกตกล้อง CCTV และพฤกรรมพนักงานขับรถผ่านระบบเทคโนโลยีป้องกันการหลับในและการละสายตาขณะขับขี่ Guardian System รวมไปถึงการทำรายงานการขนส่งของกองรถ KIAT
มูลนิธิมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรและพัฒนาคนพิการให้มีศักยภาพในการทำงานที่เหมาะสมกับร่างกายมายาวนานกว่า 40 ปี โดยเริ่มจากโรงเรียนฝึกอาชีพ และได้ขยายเครือข่ายโรงเรียนเพิ่มเป็น 4 แห่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาและฝึกอาชีพ รวมถึงการสร้างอาชีพให้กับคนพิการ ปัจจุบัน มูลนิธิฯ ได้มอบหมายให้คนพิการทำงานด้าน Call Center, Service Center และ Customer Support ให้มากกว่า 10 บริษัท ในกลุ่มธุรกิจหลายประเภทเช่นกลุ่มธุรกิจประกันภัย กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มค้าปลีก กลุ่มธุรกิจสื่อสารและเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจพลังงาน และกลุ่มการขนส่ง
"ภายใต้โครงการต่าง ๆ ที่เราได้รับความร่วมมือจากองค์กรเอกชนในการให้การสนับสนุนงานให้กับสมาชิกคนพิการในโครงการ ได้สร้างงาน สร้างอาชีพให้คนพิการมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนมากกว่า 10,000 คน และปัจจุบัน เรามีคนพิการได้รับโอกาสทำงานมากกว่า 500 คนภายใต้ความร่วมมือกับองค์กรเอกชน" นายมานพ เอี่ยมสอาด ผู้จัดการศูนย์พัฒนาธุรกิจเพื่อสังคม มูลนิธิฯ กล่าว
"เราได้มีโอกาสเห็นการทำงานของคนพิการเหล่านี้แล้ว ทำให้เรากลับมาคิดว่าที่คนพิการเหล่านี้ทำอยู่ ไม่แพ้คนทั่วไป บวกกับเราเองก็มีนโยบายที่จะสนับสนุนสังคมด้วยการให้โอกาสกับคนพิการเหล่านี้มีอาชีพที่ดีและมั่นคง อีกทั้งเรายังขาดแคลนพนักงานที่จะพัฒนางานด้านการวางแผนงานขนส่ง และงานด้านความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นงานหลักของเรา KIAT จึงตัดสินใจโอนงานส่วนที่สามารถให้คนพิการมาช่วยทำงานร่วมกับเรา และโอนย้ายพนักงานที่เคยทำงานด้านนี้มาในส่วนงานที่เป็นงานหลักของเราคืองานด้านการวางแผนงานขนส่งและความปลอดภัย" นายเมฆกล่าว
นายเมฆ กล่าวว่าได้มีการเจรจากับคณะผู้บริหาร มูลนธิฯ จนสามารถบรรลุข้อตกลงในการโอนย้ายงาน In-Vehicle Monitoring System โดยได้จัดตั้งศูนย์ 24/7 Fleet Monitoring Center ขึ้นที่ทำการมูลนิธิฯ โดยช่วงที่ผ่านมา ได้มีการฝึกอบรมคนพิการเพื่อเตรียมการรับมอบงานดังกล่าว โดยจะมีการเริ่มงานอย่างเป็นทางการในต้นเดือนสิงหาคมนี้
นายมานพ กล่าวว่า KIAT ถือเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรายล่าสุดที่ให้การสนับสนุนอาชีพคนพิการในโครงการของมูลนิธิฯ โดยเบื้องต้น มูลนิธิฯ ได้จัดบุคลากรผู้พิการทางขา จำนวน 5 คน เพื่อทำงานด้าน GPS Tracking, การเฝ้าสังเกตกล้อง CCTV และพฤกรรมพนักงานขับรถผ่านระบบเทคโนโลยีป้องกันการหลับในและการละสายตาขณะขับขี่ Guardian System รวมไปถึงการทำรายงานการขนส่งของกองรถ KIAT
ที่มา: 24 คูณ 7