"OEM" โอกาส สร้างเจ้าของแบรนด์ยุคใหม่ "อาหารเสริม-เครื่องสำอาง-สุขภาพ" 3 สินค้า มาแรง

พฤหัส ๐๑ สิงหาคม ๒๕๖๗ ๑๐:๔๖
ส่องเทรนด์ OEM ทางเลือกสำหรับคนต้องการสร้างแบรนด์ 3 อันดับ สินค้ามาแรง ได้แก่ อาหารเสริม เครื่องสำอาง สินค้าสุขภาพ ซื้อง่าย ขายคล่อง กำไรสูง ขณะที่ "อาร์ตทอย" ดึงความสนใจผู้ผลิต เจาะตลาดมากขึ้น ภาพรวม OEM เติบโตก้าวกระโดดตลอด 5-10 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลาง Red Ocean การแข่งขันสูง ทั้งด้านนวัตกรรม ราคา การตลาด การผลิตรูปแบบใหม่ บริการข้อมูลซัพพอร์ตลูกค้า แนะผู้ประกอบการปรับตัวรับความท้าทาย
OEM โอกาส สร้างเจ้าของแบรนด์ยุคใหม่ อาหารเสริม-เครื่องสำอาง-สุขภาพ 3 สินค้า มาแรง

นายนาคาญ์ ทวิชาวัฒน์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า เทรนด์การรับผลิตสินค้าให้กับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง หรือ OEM (Original Equipment Manufacturer) เรียกว่าได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากบริษัทที่ต้องการมีสินค้าของตนเองส่วนใหญ่จะเน้นการขายสินค้าเป็นหลัก และไม่มองเรื่องของกระบวนการผลิต จึงเลือก OEM ที่เหมาะสม วัตถุดิบที่เหมาะสม นอกจากจะเลือก OEM แล้ว ยังเลือกซัพพลายเออร์ที่จะนำวัตถุดิบมาให้ OME ผลิตด้วย กลายเป็นเครือข่ายที่ใหญ่ขึ้น และ OEM กลายเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากจะมีสินค้าของตนเอง เป็นเทรนด์ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับ 3 อันดับ สินค้ามาแรงใน OEM ได้แก่ อันดับ 1 อาหารเสริม อันดับ 2 เครื่องสำอาง และ อันดับ 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น ยาดม ยาหม่อง ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเสื้อผ้า เครื่องหนัง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับ เป็นกลุ่มซื้อง่ายขายคล่อง สร้างแบรนด์ง่าย และได้กำไรเฉพาะตัวเยอะ ทำให้ผู้เริ่มต้นชื่นชอบในกลุ่มนี้ อีกทั้ง "อาร์ตทอย" ยังได้รับความนิยมสูงขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ผู้ผลิตหันมาจับกลุ่มนี้มากขึ้น

"การเติบโตของ OEM หากเทียบกับ 5-10 ปีที่ผ่านมา เรียกว่าเติบโตหลายเท่าตัว และมีโรงงาน OEM เกิดใหม่ค่อนข้างเยอะ แข่งขันกันในเชิง Red Ocean หรือพื้นที่ทางธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ทุกโรงงานค่อนข้างรับงานเยอะขึ้น ส่งผลให้มีการแข่งขันด้านราคา เพราะสินค้าใหม่ที่ผลิตออกมา น้อยรายที่จะผลิตด้วยตนเอง ส่วนใหญ่จึงจ้าง OEM เป็นหลัก"

อย่างไรก็ตาม แม้ OEM จะมีการเติบโตสูงและโอกาสอีกมาก แต่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายของตลาด "นาคาญ์" กล่าวต่อไปว่า ตลาด OEM ต้องพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น หากเป็นเพียงแค่ OEM อย่างเดียว หรือมีการทำตลาดที่ลิงค์ไปกับลูกค้าน้อย อาจจะเสียลูกค้าให้กับ OEM รายอื่นที่พัฒนาตัวเองมากขึ้นได้ ดังนั้น จำเป็นต้องมีบริการมากขึ้น เช่น การหาข้อมูลเพื่อซัพพอร์ตลูกค้า เทคโนโลยีใหม่ๆ หรือการผลิตสินค้ารูปแบบใหม่

"สิ่งที่ OEM ต้องทำ คือ การพัฒนานวัตกรรมของตนเองและลดต้นทุนในกระบวนการผลิตเพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าที่ถูกลงกว่าเดิม มองว่า 2 อย่างนี้มีความจำเป็นมาก คือ มีสินค้าที่มีนวัตกรรม คุณภาพดี และราคาถูกไปด้วยกัน นี่จึงเป็นโจทย์สำคัญที่ว่า จะทำอย่างไรให้ผลิตได้เยอะ ราคาถูก และต่อรองวัตถุดิบมาได้ในราคาถูก ต้องมองเป็นเชนในตลาด สามารถตอบโจทย์ลูกค้า ให้ขายของในตลาดได้ง่ายขึ้น ของคุณภาพดี คนซื้อ ใช้ซ้ำ มีการตลาดที่ดี มีนวัตกรรมที่ดี และต้นทุนที่ถูก การแข่งขันของ OEM จะอยู่ตรงนี้"

ขณะเดียวกัน "ธุรกิจอาหารเสริม" ซึ่งนับว่าเป็นเบอร์ 1 ใน OEM มีการแข่งขันสูงขึ้นมากจากเดิมที่มีโรงงานราว 600-700 แห่ง ปัจจุบันมีเพิ่มขึ้นมากกว่าพันแห่ง ส่งผลให้การแข่งขันเข้มข้นขึ้น ผู้เล่นที่เข้ามาในตลาดบางรายนำเข้าสารสกัดโดยเปิดเป็นโรงงานเล็กๆ ของตัวเอง ในทางกลับกัน โรงงานเองก็อาจจะนำเข้าสารบางตัวมาเพื่อที่จะให้ลูกค้าของตนเองด้วย

นาคาญ์ กล่าวต่อไปว่า การแข่งขันที่มากขึ้น ผู้เล่นมากขึ้น เป็น Red Ocean แต่หากมองในแง่ดี เราจะกลายเป็นแหล่งผลิตสำคัญให้กับภูมิภาค ดังนั้น จะทำให้มีความโดดเด่นและเติบโต นอกจากนี้ ประเทศไทย ถือเป็นแหล่งผลิตอาหารที่ดีในตลาดโลก และอาหารเสริมอาจจะได้อานิสงส์การผลิตในตลาด เติบโต เป็นประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว

"ภาพรวมตลาดยังโตได้อีก ยังไม่ถึงจุดสูงสุด ยังมีผู้เล่นเยอะ และมีความเหนื่อยในการแข่งขันประมาณหนึ่ง การที่จะลดต้นทุนอย่างไรอาจเป็นโจทย์ที่สำคัญ ที่ผู้ประกอบการด้านอาหารเสริม จะต้องพยายามพัฒนาตนเองไม่เช่นนั้นก็จะสู้ไม่ไหวเช่นกัน เพราะกำลังเข้าสู่ Red Ocean อย่างที่กล่าว"

สำหรับคนที่เริ่มต้นมองหาธุรกิจและต้องการผู้ผลิต OEM ที่น่าเชื่อถือ สามารถร่วมหาไอเดียได้ที่งาน OEM Manufacturer & e-BIZ Expo 2024 มหกรรมที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการมีเริ่มต้นธุรกิจ และต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์โดยเฉพาะ โดย บริษัท โควิก เคทท์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในฐานะผู้ผลิต OEM กลุ่มอาหารเสริม เครื่องสำอาง และสมุนไพร นับเป็นหนึ่งในบริษัทที่เข้าร่วมงาน OEM Manufacturer Expo มาอย่างต่อเนื่องทุกปี

นาคาญ์ เผยในฐานะ กรรมการผู้จัดการ ว่า ตลอดการดำเนินกิจการมากว่า 30 ปี มีลูกค้าหลายรายเริ่มต้นธุรกิจจากศูนย์ จนกระทั่งสามารถตั้งโรงงานผลิตและเติบโต ซึ่งในฐานะผู้ผลิต OEM รู้สึกภูมิใจที่สามารถช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จได้ มองว่าตลาดนี้หากคนที่เข้ามาจับแล้วมีมุมมอง มีวิชั่นที่ดี โอกาสโตจะสูงมาก กลุ่มนี้สามารถเติบโตในตลาดได้ระยะยาว นับเป็นจุดแข็งของอุตสาหกรรมนี้

"อยากจะเรียนเชิญผู้ที่สนใจ ไม่ว่าจะผู้ผลิต OEM หรือ ผู้ที่อยากจะมีสินค้าของตนเอง แต่ยังไม่มีไอเดีย สามารถมาร่วมมหกรรม OEM Manufacturer & e-BIZ Expo 2024 เพราะนอกจากจะมีผู้ผลิตอาหารเสริม เครื่องสำอาง แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ OEM ด้านอื่นๆ ครอบคลุมทุกความต้องการจบในงานเดียว อีกทั้ง ยังมีงาน e-BIZ Expo เป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่สนใจในการทำธุรกิจออนไลน์ เพิ่มโอกาสในการพบปะกับผู้ให้บริการที่สามารถสนับสนุนการเติบโตในยุคดิจิทัล" นาคาญ์ กล่าว

สำหรับ งาน OEM Manufacturer & e-BIZ Expo 2024 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 สิงหาคม 2024 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 19.00 น. ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมงาน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-229-3515, 02-229-3503 หรืออีเมล [email protected] , [email protected] หรือทาง Facebook : e-Biz Expo , OEM Manufacturer Expo

ที่มา: โมเดิร์นเทียร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ