TIA ปลื้ม!! Class Action สัญจรอุบลราชธานีคึกคัก ทนายความอาชีพอีสานใต้เข้าอบรมร่วม 200 คน

ศุกร์ ๐๒ สิงหาคม ๒๕๖๗ ๐๙:๑๖
สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) จัด Class Action สัญจรครั้งที่ 5 จังหวัดอุบลราชธานี คึกคัก ทนายความอาชีพ อีสานใต้ 200 คนร่วมอบรม การดำเนินคดีแบบกลุ่มคดีเกี่ยวกับหลักทรัพย์ รับข้อมูลและแนวทางปฏิบัติตรงจากผู้พิพากษาศาลสูง อบรมจบรับวุฒิบัตรทันที ใช้เป็นใบเบิกทางเข้าสู่ทนายความอาชีพที่ผ่านการอบรมความรู้คดีด้านตลาดทุน
TIA ปลื้ม!! Class Action สัญจรอุบลราชธานีคึกคัก ทนายความอาชีพอีสานใต้เข้าอบรมร่วม 200 คน

คุณยิ่งยง นิลเสนา นายก สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) องค์กรตัวแทนผู้ถือหุ้นรายบุคคลทำหน้าที่สนับสนุนการพัฒนาตลาดทุน เพื่อความยั่งยืน ที่อยู่คู่ตลาดทุนไทยมากว่า 35 ปี เปิดเผยว่า สมาคมยังคงเดินหน้าให้ความรู้ เรื่อง การดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) อย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 จัดที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นศูนย์กลางของทนายความภาค 3 ครอบคลุม 8 จังหวัดประกอบด้วย จังหวัดอุบลราชธานี,จังหวัดยโสธร,จังหวัดอำนาจเจริญ,จังหวัดศรีสะเกษ,จังหวัดสุรินทร์,จังหวัดบุรีรัมย์ ,จังหวัดนครราชสีมา,จังหวัดชัยภูมิ จากที่ผ่านมาดำเนินการมาแล้ว 4 จังหวัด และยังคงได้รับความสนใจจาก ทนายความอาชีพเข้าร่วมอบรมเกือบ 200 ราย ซึ่งรวมกับการสัญจรที่ผ่านมา มีทนายความอาชีพ ผ่านการอบรมแล้ว กว่า 700 คน

คุณสิริพร จังตระกูล เลขาธิการสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) กล่าวว่า การจัดสัญจรปีนี้ ทาง TIA ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณทั้งหมดจาก กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) เป้าหมายของการจัดสัญจรให้ความรู้เชิงลึกทั้งทางทฤษฎีและแนวทางปฎิบัติและการนำมาใช้ในอาชีพจริง ให้กับทนายความอาชีพทั่วประเทศไทย ในการนำกฎหมาย Class Action มาใช้ในตลาดทุนไทย เพื่อเป็นเครื่องมือในการดูแลและปกป้องนักลงทุน ดังนั้นการเติมความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับธุรกิจหลักทรัพย์ เพื่อเป็นส่วนสำคัญให้การบังคับใช้กฏหมายมีประสิทธิภาพ

เลขาธิการ TIA กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนความคืบหน้าในการยกร่างศูนย์ให้ความช่วยเหลือ มีความคืบหน้ามากและคาดว่า จะยกร่างแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ และเป็นการดำเนินการภายใต้แนวคิดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต) ที่ให้มีศูนย์ฯเพื่อดูแลช่วยเหลือนักลงทุน

คุณวีระศักดิ์ บุญเพลิง ประธานกรรมการบริหาร สภาทนายภาค 3 กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ TIA ที่มาสัญจรภาคอีสาน นำความรู้มาเผยแพร่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว และทนายความอาชีพ สามารถนำความรู้ที่เกิดขึ้นจากการอบรม มาใช้เป็นประโยชน์ในอาชีพ และเป็นไปตาม MOU ที่สภาทนายความ ฯ ได้ทำไว้ กับทาง TIA ซึ่งการจัดสัญจรให้ความรู้ จะเป็นการพัฒนาความรู้ทางด้านวิชาการ นำความรู้ไปคุ้มครองประชาชน ที่ได้รับความเสียหาย ทั้งจากคดีที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน คดีคุ้มครองผู้บริโภคและคดีสิ่งแวดล้อม ที่สามารถนำกฎหมาย Class Action ไปใช้ได้ และทำให้ทนายความมืออาชีพมีความเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพได้

ท่านพงษ์เดช วานิชกิตติกูล รองประธานศาลอุทธรณ์ และช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา ได้บรรยาย ให้ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคดีกลุ่มกับทนายอาชีพที่เข้าร่วมอบรม ว่า บทบาทของ กฎหมาย Class Action จะมีความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ ที่ทุกประเทศทั่วโลกให้ความสนใจ ซึ่งประเทศไทยเรามีกฎหมายนี้มาตั้งแต่ปี 2558 ดังนั้นการที่ TIA จัดโครงการอบรมถือเป็นเรื่องที่ดี และกฎหมายแรื่องหลักทรัพย์ถือว่าดีและมีประโยชน์มากเพราะดูแลคุ้มครองนักลงทุนรายย่อยได้

อย่างไรก็ตามคดีที่จะเข้าลักษณะการดำเนินคดีแบบกลุ่ม คือ สิทธิผู้บริโภค ,หลักทรัพย์และการแข่งขันทางการค้า ,สิ่งแวดล้อม ,คดีละเมิดที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก และสิทธิพลเมือง เป็นต้น

ขณะที่กลุ่มบุคคลที่จะเข้าลักษณะการดำเนินคดีแบบกลุ่ม คือบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปไม่จำกัดจำนวนสูงสุด สิทธิเรียกร้องต่อจำเลยต้องเหมือนกัน อาศัยข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายเดียวกัน ความเสียหายของแต่ละคนไม่เหมือนและไม่เท่ากันได้

"นับตั้งแต่เริ่มที่จะดำเนินคดีแบบกลุ่มขอแนะนำให้ทำรายละเอียดทั้งหมดของกลุ่มบุคคลที่เข้ามา และทำรายการค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการทำคดีทั้งหมด เพราะ เมื่อถึงวันที่ศาลมีคำสั่งให้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม ประเด็นเหล่านี้ก็ต้องพร้อมที่จะเปิดเพื่อการพิจารณา เพราะตามกฎหมายนั้นผลตอบแทนของคดีที่จะได้รับ 30% ของมูลฟ้องนั้นทนายความจะต้องถูกนำมาพิจารณาทั้งหมด"

ท่านสรวิศ ลิมปรังษี ผู้พิพากษา หัวหน้าศาล ประจำสำนักประธานศาลฎีกา กล่าวว่า คดีหลักทรัพย์มีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับลักษณะความเสียหาย

นอกจากนี้คดีเกี่ยวกับการหลอกให้ลงทุนในคริปโท แบบไม่ได้รับอนุญาตก็สามารถเข้ามาสู่การดำเนินคดีแบบกลุ่มได้ ซึ่งกรณีนี้ได้เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาแล้ว

อย่างไรก็ตามอีกประเด็นที่สำคัญ ผู้ที่จะเป็นโจทก์และเป็นสมาชิกกลุ่มจะต้องเก็บเอกสารที่เกิดขึ้นในคำสั่งซื้อขายไว้เป็นหลักฐานด้วย

นอกจากนี้การดำเนินคดีแบบกลุ่มจะมีประโยชน์โดยรวมมากเพราะเป็นการดำเนินการครั้งเดียวแต่คำพิพากษาจะครอบคลุมทั้งหมด ทั้งผู้เสียหายที่เป็นสมาชิกกลุ่มและไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่ม บนสิทธิ และข้อเท็จจริงเหมือนกัน ภายใต้หลักกฎหมายเดียวกัน รวมทั้งมีระยะเวลาที่เร็วกว่าและค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการดำเนินคดีตามขบวนการตามปกติ

อย่างไรก็ตามการดำเนินคดีแบบกลุ่มในคดีหลักทรัพย์ การแบ่งกลุ่มเป็นเรื่องสำคัญมากในการทำคดีซึ่งในกรณีซื้อขายหลักทรัพย์จะแบ่งได้ 3 กลุ่มคือ กลุ่มคนที่เข้าซื้อหุ้น และยังคงถือหุ้นอยู่เต็มจำนวนที่ซื้อ 2. คนที่เข้าซื้อก่อนและระหว่างทางมีการขายออกแต่ไม่ได้ขายทั้งหมดและยังมีหุ้นถืออยู่ ซึ่งกลุ่มนี้จะมีความยากในการคิดและประเมินมูลค่า และ 3. ขายหุ้นออกทั้งหมดแล้ว ซึ่งกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนิติบุคคลที่เข้าลงทุนหุ้นที่มีปัญหาซึ่งกลุ่มนี้จะมีการจัดการเพราะมีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการจัดการก่อนเมื่อเห็นว่าเกิดปัญหา

นอกจากนี้ในการประชุมร่วมกันระหว่างศาลในอาเซียนมีการคุยกันเพื่อแลกเปลี่ยนและขอข้อมูลระหว่างกันเพราะมีการกระทำผิดที่เชื่อมโยงกัน มากขึ้นเช่นกรณีซิปแม็ก เป็นต้น

ที่มา: สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ