มิลพิตัส แคลิฟอร์เนีย และ ซานต์เอลปีดิโอ อะ มาเร อิตาลี - 31 กรกฎาคม 2567 - SolarEdge Technologies, Inc. ("SolarEdge") (NASDAQ: SEDG) ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีพลังงานอัจฉริยะ ประกาศในวันนี้ว่า TOD'S บริษัทแฟชั่นหรูของอิตาลีได้ขยายการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ด้วยการติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปบนสำนักงานใหญ่และโรงงานผลิตในภูมิภาค Marche ประเทศอิตาลี รวมกำลังการผลิต 740 กิโลวัตต์
โดยการใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการบริโภคภายในตัวเอง การติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปที่สำนักงานใหญ่และโรงงานผลิตของ TOD'S สามารถผลิตพลังงานได้ประมาณ 78% ของการใช้พลังงานรายวัน ส่งผลให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ประมาณ 126 ตันคาร์บอนเทียบเท่า (คำนวณโดยวิธีการกำหนดตำแหน่ง) ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงธันวาคม 2566
การติดตั้งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจด้านความยั่งยืนของบริษัทแฟชั่นหรูชื่อดังของอิตาลี โดยต่อยอดความสำเร็จจากการติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปครั้งแรกของ TOD'S กับ SolarEdge เมื่อปี 2560 ที่โรงงานผลิตใน Arquata del Tronto ซึ่งใช้เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในภูมิภาค บริษัทได้เริ่มดำเนินการติดตั้งโซล่าร์ใหม่ที่ไซต์ Montecosaro ซึ่งผลิตพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มอีก 106 กิโลวัตต์
Simona Cattaneo ผู้จัดการทั่วไปของกลุ่ม TOD'S กล่าวว่า "การขยายการใช้พลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของ TOD'S สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด ด้วยการผลิตและบริโภคพลังงานแสงอาทิตย์แบบหมุนเวียน เราสามารถลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและลดผลกระทบทางธุรกิจจากราคาพลังงานไฟฟ้าที่ผันผวนได้ ในขณะเดียวกันก็ใช้ประโยชน์จากอาคารของเราอย่างเต็มที่เพื่อผลิตพลังงานในระดับที่เราต้องการ"
เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์สูงสุดด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
TOD'S ได้มอบหมายให้ SARI 2030-EDILENERGIA ผู้ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ของอิตาลี ผลิตพลังงานให้ได้มากที่สุดจากพื้นที่หลังคาที่มีอยู่ของสำนักงานใหญ่ เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ SARI 2030-EDILENERGIA จึงเลือกใช้ Power Optimizer อุปกรณ์ขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังแผงโซล่าร์แต่ละแผง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพลังงานสูงสุด และที่สำคัญที่สุด หากประสิทธิภาพของแผงโซล่าร์แผงใดแผงหนึ่งลดลงเนื่องจากเงาหรือสิ่งสกปรก อุปกรณ์นี้จะจำกัดการสูญเสียพลังงานไว้ที่แผงนั้นเท่านั้น นวัตกรรมนี้ช่วยแก้ไขข้อจำกัดของระบบโซล่าร์แบบสายสตริงแบบดั้งเดิม ซึ่งประสิทธิภาพของแผงโซล่าร์ต่ำสุดจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของแผงโซล่าร์ทั้งสาย สำหรับธุรกิจเชิงพาณิชย์อย่าง TOD'S การสร้างความมั่นใจว่าการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์นั้นมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสภาวะเป็นสิ่งสำคัญในการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้สูงสุด
อีกหนึ่งข้อกำหนดสำคัญจาก TOD'S คือการมั่นใจว่าความปลอดภัยของอาคารและพนักงานไม่ถูกบั่นทอนจากการติดตั้งโซล่าร์ นี่คืออีกหนึ่งด้านของนวัตกรรมกับ Power Optimizer ที่เสนอความสามารถด้านความปลอดภัยขั้นสูงเพื่อช่วยลดความเสี่ยงให้กับธุรกิจ ด้วยความสามารถในการตรวจสอบแผงโซล่าร์แต่ละแผงจากระยะไกลเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพและข้อผิดพลาด สามารถระบุปัญหาของแผงโซล่าร์ได้อย่างรวดเร็วเพื่อการบำรุงรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากเกิดปัญหา แรงดันไฟฟ้าของระบบโซล่าร์สามารถลดลงสู่ระดับปลอดภัยได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที เพื่อให้สามารถซ่อมแซมหลังคาได้อย่างปลอดภัย และให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าถึงได้ในกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้
Gabriele Frontoni ซีอีโอของ SARI 2030 กล่าวว่า "ในฐานะแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในด้านฝีมือการผลิตและคุณภาพสูง TOD'S ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างคุณค่าร่วมกันในระยะยาว TOD'S ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมาหลายปีแล้ว โดยได้ลงทุนในการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและปรับปรุงประสิทธิภาพของสายการผลิต การทำงานร่วมกับ TOD'S เป็นทั้งความท้าทายและแรงบันดาลใจ เนื่องจากพวกเขาต้องการประสิทธิภาพ การทำงาน และความปลอดภัยสูงสุดเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของแต่ละโครงการ เมื่อเราสร้างโรงไฟฟ้าโซล่าร์แห่งแรกของ TOD'S ที่ Arquata del Tronto เราแนะนำเทคโนโลยีของ SolarEdge เพื่อตอบสนองความต้องการในการผลิตพลังงานสูงสุด การตรวจสอบแผงโซล่าร์แบบเรียลไทม์ และมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ไม่สามารถต่อรองได้ เทคโนโลยีนี้ประสบความสำเร็จในทุกด้านมาหลายปีแล้ว ดังนั้น เมื่อถึงเวลาออกแบบการติดตั้งโซล่าร์ล่าสุดที่สำนักงานใหญ่และโรงงานผลิต TOD'S บอกกับเราว่า 'ต้องเป็น SolarEdge' และพวกเขาไม่ใช่ธุรกิจเชิงพาณิชย์รายแรกที่เรียกร้องเช่นนี้จากเรา"
Christian Carraro ผู้จัดการทั่วไปของ SolarEdge ประจำยุโรป กล่าวว่า "การขยายการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ของ TOD'S สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของความยั่งยืนขององค์กรและ ESG ต่อการนำโซล่าร์มาใช้ บริษัทต่างๆ ต้องการกรณีทางธุรกิจที่แข็งแกร่งเพื่อสนับสนุนโครงการ ESG เหล่านี้ และนี่คือจุดแข็งของเทคโนโลยี SolarEdge ซึ่งผลิตพลังงานได้มากขึ้นเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่เร็วขึ้น พร้อมด้วยการเสนอความปลอดภัยที่เหนือกว่า นี่คือเหตุผลที่เทคโนโลยี SolarEdge อยู่บนหลังคาของบริษัทใน Fortune 100 มากกว่า 50%"
ที่มา: Incus Media