มกอช. ได้ผลักดันจนสามารถเพิ่มจุดส่งออกนำเข้าผลไม้ที่มีศักยภาพของไทยในพิธีสารฯ เส้นทางส่งออกผลไม้ผ่านประเทศที่สามได้อีก 3 ด่าน ได้แก่ ด่านบ้านฮวก จ.พะเยา ด่านทุ่งช้าง จ.น่าน และด่านภูดู่ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมรองรับการส่งออกนำเข้าผลไม้ไปยังจีน โดยผ่านเส้นทางบกไปยังจีนทางด่านโม่ฮาน ด่านโหย่วอี้ก๋วน รวมทั้ง เส้นทางรถไฟลาว-จีน
นอกจากนี้ ฝ่ายไทยได้หารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการส่งออกทุเรียนไปยังจีน โดยแจ้งมาตรการควบคุมการส่งออกทุเรียนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทั้งแมลงศัตรูพืช สารกำจัดศัตรูพืช และโลหะหนัก ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการผลิตทุเรียนของไทยให้แก่จีนอย่างมาก
ฝ่ายจีนได้แจ้งข่าวดีว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ผลักดันการส่งออกผลไม้มาจีนผ่านทางด่านกวนเหล่ย มณฑลยูนนานมาอย่างต่อเนื่องนั้น ในวันนี้ผลไม้สดจากไทยจะสามารถส่งออกมายังด่านกวนเหล่ยของจีนได้แล้ว ซึ่งไทยจะขนส่งผลไม้มาได้ โดยออกทางท่าเรือเชียงแสน จ.เชียงราย ล่องไปตามแม่น้ำโขง-ล้านช้างโดยใช้เวลาในการขนส่งประมาณ 36 - 72 ชั่วโมง ขึ้นกับกระแสน้ำ
สำหรับสินค้าประมง ก็มีข่าวดีสำหรับผู้เพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม เนื่องจากจีนได้พิจารณาคำขอเปิดตลาดจากไทยแล้ว และจะสามารถส่งออกมายังจีนได้ในเร็วๆ นี้ เป็นการเพิ่มโอกาสให้เกษตรกร
ผู้เพาะเลี้ยงในการส่งออกสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งสองฝ่ายยังกระชับความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงระบบใบรับรองสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชอิเล็กทรอนิกส์ (e-SPS) ทั้งในสินค้าพืช ประมง และปศุสัตว์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบสินค้านำเข้าส่งออกระหว่างไทยและจีน การเปิดตลาดผลไม้แช่แข็ง สละ อินทผลัม รวมทั้ง มะยงชิด และการพิจารณาเปิดตลาดโคมีชีวิตและผลิตภัณฑ์ไปยังจีน อีกด้วย
การประชุม JTC - SPS ไทย - จีน เป็นกลไกความร่วมมือภายใต้บันทึกความเข้าใจร่วมกันว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชระหว่างไทยและจีน ซึ่งลงนามไปตั้งแต่ปี 2004 และมีการประชุมทางด้านเทคนิคและระดับสูง ทุกๆ 2 ปี ซึ่งการประชุมครั้งที่ 8 นี้ ฝ่ายจีนเป็นเจ้าภาพ และในปี 2569 ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมดังกล่าว โดยทั้งไทยและจีนเน้นย้ำถึงความสำคัญของการประสานงานอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างประโยชน์และผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมร่วมกัน ส่งเสริมการค้าไทยจีนให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นต่อไป สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร สร้างรายได้แก่เกษตรกรไทย
ที่มา: สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ