สวทช. และพันธมิตรแถลงเปิดโครงการ 'ชริมป์การ์ด' มุ่งพัฒนากุ้งปลอดโรค ปลอดภัย และปราศจากยาปฏิชีวนะ ยกระดับอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงกุ้งในไทยและอาเซียน

อังคาร ๐๖ สิงหาคม ๒๕๖๗ ๑๖:๕๖
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับทีมวิจัยจากกรมประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก และ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงข่าวเปิดโครงการความร่วมมือ 'ชริมป์การ์ด' (ShrimpGuard): การพัฒนาสูตรผสมของแบคทีริโอฟาจ (bacteriophage) หรือฟาจ (phage) และสารเสริมชีวนะเพื่อต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรีย Vibrio spp. ที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะในกุ้งเลี้ยง' หรือ 'ชริมป์การ์ด' โครงการนี้ได้รับทุนสนับสนุนจำนวน 41,605,962 บาท จากศูนย์วิจัยการพัฒนาระหว่างประเทศ (International Development Research Centre: IDRC) ประเทศแคนาดา และกระทรวงสาธารณสุขและสังคม (Department of Health and Social Care) แห่งสหราชอาณาจักร ระยะเวลาดำเนินการ 32 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 ถึงเดือนธันวาคม 2569
สวทช. และพันธมิตรแถลงเปิดโครงการ 'ชริมป์การ์ด' มุ่งพัฒนากุ้งปลอดโรค ปลอดภัย และปราศจากยาปฏิชีวนะ ยกระดับอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงกุ้งในไทยและอาเซียน

นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า การเพาะเลี้ยงกุ้งเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญสำหรับประเทศกำลังพัฒนารวมถึงประเทศไทย โดยมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร ประเทศไทยเคยเป็นผู้ผลิตกุ้งรายใหญ่อันดับสองของโลก โดยมาจากการเพาะเลี้ยงกุ้งในประเทศมากกว่า 90% แต่ในช่วงหลังนี้ประเทศไทยเสียส่วนแบ่งตลาดให้ประเทศคู่แข่งเช่นเวียดนามและจีน เนื่องจากโรคระบาดในกุ้ง การปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะต่างๆ การห้ามส่งออก และนโยบายการค้าที่ไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ปัจจัยด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกยังทำให้การแพร่ระบาดของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในระหว่างการเพาะเลี้ยงมีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและอัตราการรอดของกุ้ง และนำไปสู่ความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง

ปัจจุบันโรค Vibriosis ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Vibrio spp. นับเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่ทำให้กุ้งตายในฟาร์มเลี้ยงและโรงเพาะฟัก เกษตรกรจึงอาจใช้ยาปฏิชีวนะหรือสารเคมีเพื่อควบคุมเชื้อและป้องกันโรค แต่การใช้ยาที่ไม่เหมาะสม หรือเกินขนาดอาจนำไปสู่ปัญหาเชื้อแบคทีเรียดื้อยา การแพร่กระจายของเชื้อดื้อยาและยีนดื้อยาในสภาพแวดล้อม รวมถึงการตกค้างของยาปฏิชีวนะในเนื้อกุ้ง

ศาสตราจารย์ ดร. ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า การพัฒนาทางเลือกเพื่อลดปัญหาดังกล่าวในการเพาะเลี้ยงกุ้งถือเป็นเรื่องเร่งด่วน สวทช. นำโดย ดร. กัลยาณ์ ศรีธัญญลักษณา-แดงติ๊บ นักวิจัยอาวุโส ทีมวิจัยสุขภาพสัตว์น้ำ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติหรือไบโอเทค สวทช. และหัวหน้าโครงการ 'ชริมป์การ์ด' จึงได้ร่วมกับทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรมประมง ดำเนินโครงการ 'ชริมป์การ์ด' ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญที่จะมีส่วนช่วยพลิกโฉมอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งให้มีความยั่งยืน ด้วยการลดการพึ่งพายาปฏิชีวนะแบบดั้งเดิม

ดร. กัลยาณ์ ศรีธัญญลักษณา-แดงติ๊บ นักวิจัยอาวุโส ไบโอเทคและหัวหน้าโครงการ 'ชริมป์การ์ด' กล่าวว่า ทีมวิจัยได้ร่วมกันดำเนินโครงการที่มุ่งพัฒนาสารชีวภาพที่เราเรียกว่า 'ชริมป์การ์ด' ซึ่งเป็นแบคทีริโอฟาจ (bacteriophage) หรือไวรัสที่มีประสิทธิภาพในการเข้าทำลายเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในกุ้งได้อย่างจำเพาะเจาะจง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในระบบการเลี้ยงกุ้งและในลำไส้กุ้ง ภายใต้โครงการนี้ 'ชริมป์การ์ด' จะถูกพัฒนาให้ใช้ได้ทั้งในน้ำเลี้ยงกุ้งและในสูตรอาหารกุ้ง โดยใช้นาโนเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มความคงตัวของ 'ชริมป์การ์ด'

รศ.ดร.กิติญา วงษ์คำจันทร์ โอราน ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการร่วมในโครงการวิจัยนี้ อธิบายเพิ่มเติมว่า สำหรับการพัฒนาสูตรอาหารกุ้งจะพัฒนา 'ชริมป์การ์ด' ร่วมไปกับการพัฒนาสารชีวภาพอื่นอีก 3 ชนิดที่มีรายงานการวิจัยว่าสามารถกระตุ้นให้เกิดความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันของกุ้งในการต้านการก่อโรคของเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย สูตรอาหารดังกล่าวจะนำไปใช้ระหว่างการเลี้ยงลูกกุ้งเพื่อป้องกันและควบคุมเชื้อแบคทีเรียร้ายแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการเลี้ยง

ดังนั้น 'ชริมป์การ์ด' จะเป็นสารชีวภาพที่นำมาใช้ในการป้องกันและควบคุมเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในระหว่างการเพาะเลี้ยงกุ้งที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งจะเป็นการช่วยลดการใช้ยาปฏิชีวนะที่เป็นต้นเหตุของการเกิดเชื้อดื้อยาในการเลี้ยงกุ้ง สามารถพัฒนากุ้งพรีเมียมปลอดโรค ปลอดภัยและปราศจากยาปฏิชีวนะเพื่อยกระดับสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค 

นอกจากนี้โครงการยังให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายการสนับสนุนแนวทางการใช้สารชีวภาพทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะหรือสารเคมีในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลร่วมกับกลุ่มประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลางที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล โดย ดร. กัลยาณ์ ศรีธัญญลักษณา-แดงติ๊บ หัวหน้าโครงการ 'ชริมป์การ์ด' กล่าวว่าโครงการวิจัยนี้จะพัฒนาเครือข่ายการทำงานร่วมกับศูนย์เครือข่ายสุขภาพสัตว์น้ำแห่งอาเซียน (ASEAN Network on Aquatic Animal Health Centres: ANAAHC) ที่มีประเทศไทยโดยกองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ กรมประมง เป็นผู้นำศูนย์เครือข่าย และโครงการวิจัยนี้ยังมีคณะที่ปรึกษาประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและระบบเฝ้าระวังเชื้อดื้อยาในสัตว์น้ำจากองค์กรทั้งในประเทศ และระดับนานาชาติ ได้แก่ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) องค์การข่ายงานศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแห่งเอเชียและแปซิฟิก (NACA) และศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAFDEC) อีกด้วย

ผลสำเร็จจากโครงการวิจัยนี้จะได้รับการเผยแพร่ผ่านเครือข่ายความร่วมมือภาครัฐ เช่น กรมประมง และภาคเอกชน เพื่อการถ่ายทอดเทคโนโลยีและข้อมูลแก่เกษตรกรในประเทศ โดยเน้นไปที่การใช้เป็นแนวทางที่สามารถทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะในการเพาะเลี้ยงกุ้ง เพื่อนำไปสู่การเพิ่มผลผลิตและการสร้างกระบวนการเพาะเลี้ยงที่ยั่งยืนและปลอดภัยในระยะยาว

ที่มา: NECTEC

สวทช. และพันธมิตรแถลงเปิดโครงการ 'ชริมป์การ์ด' มุ่งพัฒนากุ้งปลอดโรค ปลอดภัย และปราศจากยาปฏิชีวนะ ยกระดับอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงกุ้งในไทยและอาเซียน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ