นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในสังคมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินตามเป้าหมายสหประชาชาติ ผ่านสาขากว่า 7,980 แห่ง พร้อมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ยืนหยัดเป็นผู้ให้สินเชื่อที่รับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง
ส่งผลให้ในไตรมาส 2/2567 พอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 154,672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.43% รายได้รวมอยู่ที่ 6,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.10% และกำไรสุทธิ 1,444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.33% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ 6 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวม 13,463 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.35% และกำไรสุทธิ 2,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.85% เทียบช่วง 6 เดือนแรกของปีก่อน โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าเป้าพอร์ตสินเชื่อจะเติบโตกว่า 15-20% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 2.88% ซึ่งสามารถบริหารจัดการให้อยู่ในระดับไม่เกิน 3.20% ภายใต้นโยบายช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพลูกหนี้ รวมถึงการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ
ล่าสุด MTC เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 7/2567 ซึ่งเป็นหุ้นกู้ชุดใหม่ 3 ชุด ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 4 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.30% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี 3 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.80% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี 8 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.95% ต่อปี โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายระหว่างวันที่ 16 และ 19 - 20 สิงหาคม 2567 อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ และหุ้นกู้อยู่ในระดับ Investment Grade ที่ "BBB+" แนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" โดยทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 ซึ่งวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้รับไปขยายพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯ ที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญต่อการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพและสิทธิในการเข้าถึงมาตรฐานบริการระดับสากลอย่างเท่าเทียม พัฒนากระบวนการปล่อยสินเชื่อตลอดห่วงโซ่ของกิจการ พร้อมทั้งรักษาผลประโยชน์และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าให้เกิดความประทับใจสูงสุด คำนึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน จนได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการอยู่ในระดับ "ดีเลิศ" (5 ดาว) รวมถึงผลประเมินหุ้นยั่งยืน (ESG Rating) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในระดับ A และผลประเมิน MSCI Index ในระดับ AA สะท้อนการเป็นผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในมาตรฐานระดับโลก (World-class Thai Microfinance)
ทั้งนี้ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินระดับโลก อาทิเช่น องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) รัฐบาลเยอรมนี (KFW DEG) และยินดีที่จะระดมความร่วมมือกับแหล่งเงินทุนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศอีกหลายแห่งในอนาคต เพื่อสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต รักษาเสถียรภาพทางสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นที่พึ่งทางการเงินและเติบโตเคียงคู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน
ที่มา: เมืองไทย แคปปิตอล