"รร.บ้านนาคำ นครพนม" เลี้ยงไก่ไข่เป็นอาหารกลางวัน สร้างความมั่นคงทางอาหารในโรงเรียน สู่คลังอาหารชุมชน

พฤหัส ๐๘ สิงหาคม ๒๕๖๗ ๑๒:๔๐
หลังจากรับมอบ "โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน" ที่เครือซีพี บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และ หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ หรือ JCC ร่วมกันดำเนินการแล้ว โรงเรียนบ้านนาคำ ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ได้เริ่มต้นโครงการฯนี้อย่างตั้งแต่ปี 2566 และสามารถสร้างผลผลิตไข่ไก่จากแม่ไก่ที่พวกเขาดูแลด้วยตัวเอง เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนทุกคน
รร.บ้านนาคำ นครพนม เลี้ยงไก่ไข่เป็นอาหารกลางวัน สร้างความมั่นคงทางอาหารในโรงเรียน สู่คลังอาหารชุมชน

นางวิภาวณี บุญศรี ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านนาคำ กล่าวถึงที่มาของการร่วมโครงการฯ ว่า จากการที่หลายโรงเรียนในเขตอำเภอโพนสวรรค์ ได้เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ที่เครือซีพี ซีพีเอฟ และมูลนิธิฯ ให้การสนับสนุนและส่งเสริมภาวะโภชนาการที่ดีแก่นักเรียนอยู่แล้ว โรงเรียนบ้านนาคำจึงขอรับการสนับสนุนโครงการฯนี้ หลังจากได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมโครงการฯแล้ว ก็ทำให้นักเรียนได้บริโภคไข่ไก่ที่มีโปรตีนคุณภาพดี ได้มีโอกาสฝึกอาชีพเลี้ยงไก่ไข่ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

"โรงเรียนบ้านนาคำ เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีนักเรียน 104 คน เปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 2 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 เราตัดสินใจเข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ เพื่อให้นักเรียนได้บริโภคไข่ไก่เป็นอาหารกลางวัน โดยกำหนดให้มีเมนูไข่ อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ ขณะเดียวกัน โรงเรือนไก่ไข่ยังเป็นห้องเรียนอาชีพ เป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนให้กับนักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง และซีพีเอฟยังส่งเสริมการจ้างงานแก่คนพิการในหมู่บ้านก็ ทำให้มีงานทำ มีรายได้ดูแลครอบครัว โดยมีชาวชุมชนทุกคนเป็นลูกค้าผู้สนับสนุนซื้อผลผลิตไข่ไก่จากฝีมือการเลี้ยงของลูกหลานของพวกเขาเอง" ผอ.วิภาวณี กล่าว

ด.ช.วีรภัทร ตงกะพษ์ หรือน้องติว นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่าว่า ปัจจุบันมีนักเรียนผู้ดูแลโครงการจำนวน 18 คน เป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยระบุเข้าในการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ วันนี้เราภูมิใจที่โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯของโรงเรียน กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาการบริหารจัดการธุรกิจเกษตร และยังเป็นคลังอาหารให้นักเรียนและชุมชน เพราะได้ทั้งไข่ไก่เพื่อเป็นอาหารกลางวัน ส่วนที่เหลือยังยจำหน่ายให้กับผู้ปกครองด้วย

ทางด้าน ด.ญ. ดาริกา มันอาษา หรือน้องน้ำแข็ง นักเรียนชั้นเดียวกัน บอกว่า การดูแลไก่ไข่นั้นไม่ยุ่งยากในแต่ละวัน มีนักเรียนรับผิดชอบวันละ 5 คน แบ่งงานเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติในตอนเช้า จะเข้าทำความสะอาดโรงเรือน ที่น้ำ และรางอาหาร รวมถึงให้อาหารรอบแรก 1 จากนั้นช่วงเที่ยง เป็นกิจกรรมเก็บไข่ไก่ คัดไข่ ลงบันทึกปริมาณ และนำส่งสหกรณ์โรงเรียน สุดท้ายช่วงบ่ายโมงเป็นการให้อาหารไก่ครั้งที่ 2 นอกจากนี้ มูลไก่ที่จัดการด้วยการนำออกไปตากแดดทุกๆ 3วัน ยังสร้างรายได้ให้ถึงกิโลละ 5 บาท

สำหรับขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการฯ ผอ.วิภาวณี อธิบายว่า เริ่มจากการสมัครผ่านทางเว็บไซต์ของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เมื่อได้รับการตรวจสอบและผ่านคุณสมบัติตามที่กำหนดแล้ว คณะกรรมการจากมูลนิธิฯ และซีพีเอฟ จึงเข้ามาดูพื้นที่ว่าเหมาะสมกับการเลี้ยงไก่ไข่หรือไม่ พร้อมประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครู และบุคลากร เพื่อขอความเห็นชอบในการเลี้ยงไก่ไข่ เมื่อผ่านขบวนการทั้งหมดแล้วจึงเริ่มต้นการเลี้ยงไก่ไข่ โดยโครงการสนับสนุนการก่อสร้างโรงเรือนและติดตั้งอุปกรณ์เลี้ยงไก่ไข่ พันธุ์ไก่ไข่ และอาหารไก่ไข่ฟรี เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยมีซีพีเอฟสนับสนุนงบประมาณ และยังส่งนักสัตวบาลเข้ามาสนับสนุนด้านวิชาการตั้งแต่เริ่มต้นเลี้ยงจนถึงปลดแม่ไก่ พร้อมทั้งแนะนำการจัดการผลผลิตไข่ไก่สด การจำหน่าย และการบริหารจัดการด้านตลาด ทำให้โครงการฯ สามารถบริหารรายได้เป็นเงินกองทุน ส่งต่อให้กับรุ่นต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โรงเรียนพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

"ปัจจุบันโรงเรียนของเราไม่มีต้นทุนในการเลี้ยงไก่ไข่ เนื่องจากได้รับอาหารไก่ไข่จากโครงการฯเป็นเวลา 1 ปี จึงสามารถเก็บเงินที่จำหน่ายไข่ไก่ไว้สำหรับต่อยอดโครงการฯในปีต่อๆ ไปได้ ทั้งครูและนักเรียนต่างดีใจที่รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ทุกคนรู้สึกภูมิใจมาก ที่โรงเรียนขนาดเล็กของเราสามารถบริหารจัดการโครงการฯได้อย่างดี นักเรียนได้บริโภคไข่ ได้ฝึกอาชีพ ทำให้โรงเรียนได้ต้อนรับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน และยังได้การสนับสนุนระบบไอซีทีและคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ จาก ทรู คอร์ปอเรชั่น เพื่อต่อยอดจากการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน นำเทคโนโลยีระบบฟาร์มอัตโนมัติ (Farm Automation) ด้วยระบบไอโอทีด้วย" ผอ.วิภาวณี กล่าว

เครือซีพี โดยมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และซีพีเอฟ ภูมิใจที่ได้ร่วมสร้างโภชนาการที่ดีให้เยาวชน ตลอด 36 ปี ช่วยแก้ปัญหาทุพโภชนาการในเด็กนักเรียน ช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนโปรตีนแก่เยาวชนในชนบทมากถึง 213,794 คน ใน 959 โรงเรียนทั่วประเทศ พร้อมสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการที่ดีแก่เด็กนักเรียน สร้างคลังอาหารในโรงเรียนและชุมชนใกล้เคียง เกิดเป็นแหล่งอาหารโปรตีนโดยฝีมือของนักเรียน นำไปสู่กการพัฒนาระบบการบริหารจัดการผลผลิตที่สร้างความยั่งยืนให้กับโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันได้อย่างเป็นรูปธรรม

ที่มา: Charoen Pokphand Foods

รร.บ้านนาคำ นครพนม เลี้ยงไก่ไข่เป็นอาหารกลางวัน สร้างความมั่นคงทางอาหารในโรงเรียน สู่คลังอาหารชุมชน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ