กรมวิชาการเกษตรหนุนผลิตฟักบัตเตอร์นัทอินทรีย์ในโรงเรือน รุดถ่ายทอดเทคโนโลยีเพิ่มศักยภาพผลผลิต ชูเป็นพืชอายุเก็บเกี่ยวสั้น สร้างรายได้ให้เกษตรกรตลอดทั้งปี

ศุกร์ ๐๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ ๑๘:๐๙
นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ปัจจุบันการผลิตพืชผักอินทรีย์ในโรงเรือนได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากมีศักยภาพในการเพิ่มผลผลิต ลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรปราจีนบุรี กรมวิชาการเกษตร จึงได้จัดฝึกอบรม "เทคโนโลยีการผลิตฟักบัตเตอร์นัทอินทรีย์ในโรงเรือน" ภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนาการผลิตพืชผักอินทรีย์ในโรงเรือนพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อดำเนินการศึกษาการป้องกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชในโรงเรือนฟักบัตเตอร์นัทอินทรีย์ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าปลอดสารเคมีมากขึ้น โดยโครงการนี้เน้นการใช้เทคโนโลยีการเพาะปลูกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการจัดการโรงเรือนที่มีประสิทธิภาพ
กรมวิชาการเกษตรหนุนผลิตฟักบัตเตอร์นัทอินทรีย์ในโรงเรือน รุดถ่ายทอดเทคโนโลยีเพิ่มศักยภาพผลผลิต ชูเป็นพืชอายุเก็บเกี่ยวสั้น สร้างรายได้ให้เกษตรกรตลอดทั้งปี

นางสาวนงนุช ช่างสี นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรปราจีนบุรี กล่าวว่า เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดสระแก้วนิยมปลูกเมล่อนแต่ประสบปัญหาทั้งด้านผลผลิตและราคา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรปราจีนบุรี จึงเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา ส่งเสริมและอบรมพัฒนาการผลิตฟักบัตเตอร์นัทอินทรีย์ในโรงเรือนพื้นที่ภาคตะวันออกที่ให้ผลผลิตและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร โดยฟักบัตเตอร์นัท (Butternut Squash) หรือฟักน้ำเต้า เป็นผลไม้กลุ่มสควอชเป็นฟักชนิดหนึ่งที่มูลนิธิโครงการหลวงส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกเป็นรายได้เสริม เป็นผักที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งฟักบัตเตอร์นัทไม่เพียงแต่มีรสชาติหวานนุ่มและเนื้อสัมผัสที่ละเอียดอ่อนเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ฟักบัตเตอร์นัท เป็นพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น โดยใช้เวลาเพียง 75 - 100 วัน นับจากการเพาะเมล็ดจนถึงการเก็บเกี่ยว และสามารถให้ผลผลิตได้ 2 - 3 รุ่น และไว้ผลต่อต้นได้ 2 - 3 ผลต่อรุ่น ซึ่งต่างจากเมล่อนที่ให้ผลผลิตครั้งเดียว ราคากิโลกรัมละ 60 - 120 บาท (ขึ้นอยู่กับคุณภาพและท้องที่การผลิต) นอกจากนี้ผลผลิตของฟักทองบัตเตอร์นัทสามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องได้นานถึง 4-5 เดือนโดยที่คุณภาพไม่ลดลง สีและรสชาติไม่เปลี่ยนแปลง สิ่งที่สนใจคือฟักทองบัตเตอร์นัทสามารถปลูกและเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี ลักษณะเด่นคือ ผิวเรียบ ลื่น และมีสีครีมนวล เนื้อภายในมีความหนาและมีสีเหลืองทองที่น่ารับประทาน น้ำหนักเฉลี่ยของผลฟักบัตเตอร์นัทอยู่ที่ 0.4 - 0.8 กิโลกรัม รสชาติหวานมัน ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมในเมนูอาหารหลากหลายชนิด

นางสาวนงนุช กล่าวต่อไปว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรปราจีนบุรี ได้ทำการศึกษาวัสดุปลูกฟักบัตเตอร์นัทอินทรีย์ ในโรงเรือนพบว่า ดิน+ปุ๋ยหมักเติมอากาศ+ขุยมะพร้าว 1:2:1 ให้ผลผลิตจำนวนผลดีที่สุดตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ โดยให้จำนวนดอกบานเฉลี่ย 0.65 ดอก จำนวนการติดผล 11 ผล และน้ำหนักผลเท่ากับ 393.97 กรัม หากสำรวจพบแมลงศัตรูพืชแนะนำให้ป้องกันและกำจัดโดยใช้วิธีการฉีดพ่นสารสกัดจากธรรมชาติอย่าง D-limonene เป็นสารสกัดจากเปลือกส้ม ในอัตราส่วน 2 ซีซี ต่อน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นทุกสัปดาห์ต่อเนื่องกัน 4 สัปดาห์ ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนพบแมลงศัตรูพืชลดลงอย่างรวดเร็วภายในสัปดาห์แรกที่ทำการฉีดพ่น รวมทั้งใช้ไตรโคเดอร์มาผสมดินปลูกและฉีดพ่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการเกิดโรคจากเชื้อราสาเหตุโรคพืชและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่อาจเกิดขึ้นในระบบราก ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยลดการใช้สารเคมี อย่างไรก็ตามเมื่อเริ่มปลูกพืชเกษตรกรต้องหมั่นสำรวจพืชปลูกอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ทราบสถานการณ์ของศัตรูพืชและสภาพความแข็งแรงของพืชปลูก หากพบต้นพืชที่เป็นโรคให้ถอนออกจากโรงเรือนทันที เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคไปยังต้นพืชอื่น ๆ ในโรงเรือน เกษตรกรที่สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรปราจีนบุรี โทรศัพท์ 037-210261, 037-210262

ที่มา: กรมวิชาการเกษตร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๑๗:๑๖ กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๑๗:๕๕ Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๑๗:๔๗ โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๑๗:๑๒ ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๑๗:๐๐ กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๑๖:๐๐ WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๑๖:๐๔ เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๑๖:๔๗ ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๑๖:๐๒ NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ