ดร.ณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ผู้ให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติก ที่มีความเสถียรสูงสุดทั่วประเทศไทย เปิดเผยถึงงบการเงินไตรมาส 2/2566 ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวม 569 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 21 ล้านบาท
โดยในไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มีรายได้จากงานบริการโครงข่าย ที่ถือเป็นรายได้หลัก จำนวน 328 ล้านบาท รายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่าย 148 ล้านบาท รายได้จากการให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ 25 ล้านบาท และรายได้จากการขายและให้บริการเครื่องมือแพทย์ 62 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยรวมทุกธุรกิจที่ 24%
ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ได้ผนึกกำลังกับ 7 บริษัทโทรคมนาคมและบริการศูนย์ข้อมูลชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน ผ่านการร่วมลงนามความร่วมมือในโครงการ AseanConnect.One เพิ่มศักยภาพการให้บริการกลุ่มบริษัทโทรคมนาคม และผู้ให้บริการคอนเทนต์ผ่านอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคอาเซียนแบบไร้รอยต่อ เพื่อให้บริการสื่อสารความเร็วสูงแบบครบวงจรที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีผู้ให้บริการจากต่างประเทศรายหนึ่ง เข้ามาเป็นลูกค้ารายแรกของโครงการ เพื่อใช้โครงข่ายของบริษัทเชื่อมต่อไปยังประเทศมาเลเซีย และดาต้า เซ็นเตอร์แห่งหนึ่งในประเทศไทย มูลค่าสัญญารวมทั้งหมดประมาณ 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ชำระค่าเชื่อมต่อเพียงครั้งเดียว แต่ต้องเฉลี่ยการรับรู้รายได้เป็นรายเดือน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีแนวโน้มเติบโตจากการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐปี 2567 ที่ได้อนุมัติเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา รวมถึง การอนุมัติหลักการแผน USO 3 ภายใต้งบประมาณ 5.8 พันล้านบาท และจากภาคเอกชนที่เริ่มให้ความสำคัญเรื่อง Data Transformation มากกว่าเดิม รวมถึงผลจากการที่นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในด้าน Data Center และ Cloud Service เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลดีสำหรับโครงการของบริษัทที่เข้าประมูลงานด้าน IT ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ITEL ยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลกำไรในช่วง Q3/67 เพิ่มเติมได้อีก จากบริษัทภายในเครือ อย่าง บริษัท โกลบอล ลิโธทริปซี่ย์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ GLS ธุรกิจเทคโนโลยีด้านสุขภาพ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสอดคล้องไปกับเทรนด์ Health Tech ที่ในปีนี้ได้มีการตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 100 ล้านบาท รวมถึงการนำบริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BLUE ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือ ITEL ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการออกแบบ และให้คำปรึกษา เกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในไตรมาส 4 ปี 2567 นี้
จากการพัฒนาและเปลี่ยนผ่านธุรกิจโทรคมนาคมแบบดั้งเดิม (Telco) บริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะวางตำแหน่งแบรนด์ของตนเป็นบริษัทเทคโนโลยี (Techco) ซึ่งหมายถึงการเป็นบริษัทโทรคมนาคมที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรม มุ่งเน้นประสบการณ์ของลูกค้า และจัดให้มีกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) อย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างบริการที่มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์เมกะเทรนด์โลกอนาคต พร้อม ๆ กับการเดินหน้าขยายฐานลูกค้าอย่างครอบคลุม เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ได้อย่างแน่นอน
ที่มา: แอลทีเอ็มเอช