CHAO โชว์ผลงานไตรมาส 2/67 ทำกำไรสุทธิ 33.1 ล้านบาท เติบโต 24.2% ยอดขายจีน-อเมริกาหนุนรายได้จากต่างประเทศโตพุ่ง 13.3% ปูพรมแต่งตั้ง Distributor เพิ่มเป็น 17 ประเทศ มุ่งเติบโตสู่ระดับ Global

พุธ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๗ ๑๔:๒๘
'บมจ. เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี’ หรือ CHAO ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2567 (เมษายน - มิถุนายน) มีรายได้จากการขาย 342.9 ล้านบาท เติบโต 2% และมีกำไรสุทธิ 33.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าตามลำดับ ประเมินแนวโน้มครึ่งปีหลังยังคงสดใสจากการเติบโตของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา ปูพรมแต่งตั้ง Distributor เพิ่มเป็น 17 ประเทศ รุกขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เล็งวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ 15 รายการ พร้อมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแบบ 360 องศา ดันผลงานโตตามเป้าหมาย
CHAO โชว์ผลงานไตรมาส 2/67 ทำกำไรสุทธิ 33.1 ล้านบาท เติบโต 24.2% ยอดขายจีน-อเมริกาหนุนรายได้จากต่างประเทศโตพุ่ง 13.3% ปูพรมแต่งตั้ง Distributor เพิ่มเป็น 17 ประเทศ มุ่งเติบโตสู่ระดับ Global

นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ ภายใต้แบรนด์ “เจ้าสัว” และแบรนด์ “โฮลซัม (Wholesome)” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 (เมษายน - มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 342.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 33.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยหลักมาจากการเติบโตของตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากประเทศหลักที่ทางกลุ่มบริษัทฯ มุ่งเน้นในการทำตลาดทั้งประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา รวมถึงมีการเปิดตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ในประเทศเกาหลีใต้ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2567 (มกราคม - มิถุนายน) มีรายได้จากการขายรวม 679.2 ล้านบาท เติบโต 0.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 59.8 ล้านบาท เติบโต 1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ บริษัทฯ ประเมินว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการขยายตัวของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการออกสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ข้าวตังและหมูแท่ง ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างการขายผ่านช่องทางร้านค้าปลีกดั้งเดิม (Traditional Trade) ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว คาดว่าจะเริ่มส่งผลบวกต่อยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขยายตัวแทนจำหน่าย จะเริ่มเกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) ในครึ่งปีหลังจากการเพิ่มขึ้นของยอดขาย ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าผลประกอบการในครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHAO กล่าวว่า สำหรับแผนงานครึ่งปีหลัง 2567 บริษัทฯ วางแผนที่จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในประเทศจะมุ่งเน้นการเพิ่มจำนวนร้านค้าปลีกดั้งเดิมที่กระจายสินค้าของบริษัทฯ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น Shopee, Lazada และ TikTok ในส่วนของตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะขยายการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ส่งออกไปแล้วกว่า 17 ประเทศ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีกประมาณ 15 SKUs ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค และเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น รวมถึงการทำแคมเปญการตลาดแบบ 360 องศา ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างการรับรู้ในแบรนด์ โดยมีแบรนด์แอมบาสเดอร์และอินฟลูเอนเซอร์ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ

สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายโดยรวมของอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจากภาครัฐ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภค นอกจากนี้ การที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทำให้มีความต้องการสินค้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสของบริษัทฯ ในการพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเป็นขนมขบเคี้ยวทางเลือกที่ดีกว่า (Better-For-You Snack) สำหรับผู้บริโภค

“CHAO มุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ที่มีศักยภาพสูงและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาที่เรามีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและมีโอกาสในการขยายตลาดอีกมาก นอกจากนี้ เรายังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของสุขภาพ ซึ่งเราเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต” นางสาวณภทร กล่าว

ที่มา: เอ็มที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ ธ.ค. ศิริราชผนึก 3 โรงพยาบาลร่วมจัดโครงการ 72 ข้อเทียม เทิดพระเกียรติ วโรกาส 72 พรรษา ทศมราชา
๑๘ ธ.ค. CHARLES KEITH เฉลิมฉลองปีมะเส็งด้วยคอลเลคชั่น LUNAR NEW YEAR ที่สะท้อนถึงการเกิดใหม่ และการเปลี่ยนแปลงสุดล้ำสมัย
๑๘ ธ.ค. นิคเคอิ ออนไลน์ เอดิชัน ขึ้นแท่นรายแรกของญี่ปุ่นที่มีผู้สมัครสมาชิกดิจิทัลแบบเสียค่าบริการทะลุ 1 ล้านราย
๑๘ ธ.ค. บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี คว้าใบรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27701:2019 ยกระดับมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
๑๘ ธ.ค. CPANEL จัดงาน Analyst Meeting ให้ข้อมูลกลยุทธ์การเติบโตช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567
๑๘ ธ.ค. TFG ปักหมุดรายได้ปี 68 เติบโต 10%
๑๘ ธ.ค. OR ได้รับการประเมินผลหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ติดอันดับรายชื่อหุ้นยั่งยืนที่ระดับสูงสุด AAA ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๘ ธ.ค. กรุงศรี และ พันธมิตร ร่วมแชร์มุมมองและโอกาสต่อยอดธุรกิจ หนุนไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์
๑๘ ธ.ค. EGCO Group ติดอันดับดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ DJSI 2024 ต่อเนื่องปีที่ 5
๑๘ ธ.ค. เดอะ ไทยแลนด์เดอร์ส มอบรางวัล The Tahilanders Best Beauty Awards 2024