ส่วนรายได้รวมในไตรมาสดังกล่าว (1 เม.ย.-30 มิ.ย.67) อยู่ที่ 293.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.57 ล้านบาท หรือ 14.23% จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 257.03 ล้านบาท และงวด 6 เดือนแรก (1 ม.ค.-30 มิ.ย.67) มีรายได้รวมอยู่ที่ 622.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107.15 ล้านบาท หรือ 20.77% จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 515.79 ล้านบาท เนื่องจากราคาวัตถุดิบลดลงและบริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หลังสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน นอกจากนี้ยอดขายของบริษัทฯ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
“ด้วยเศรษฐกิจที่ซบเซาและคู่แข่งที่มากขึ้นในปัจจุบัน บริษัทฯ ต้องวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินการหาวิธีลดต้นทุน เพื่อปรับราคาให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงการผลิตที่มีคุณภาพ ทันสมัย การส่งสินค้าตรงต่อเวลา รวมทั้งการส่งเสริมการขายต่างๆ และบริษัทฯ ยังคงติดตามสถานการณ์ของการปรับราคาวัตถุดิบอยู่ตลอดเวลาและพยายามบริหารจัดการสินค้าคงคลัง เพื่อลดภาระราคาวัตถุดิบที่ผันผวนตามช่วงเวลา” นายวสันต์ กล่าว
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล งวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.ถึงวันที่ 30 มิ.ย.2567 ในอัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.02 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 28 ส.ค. 2567 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 27 ส.ค. 2567 และวันที่จ่ายปันผล 11 ก.ย. 2567
ที่มา: PIMO-ไพโม่