นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางอันดับหนึ่งของประเทศไทย เปิดเผยว่า
ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากไตรมาสก่อนหน้า โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 25,820.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และกลับมาทำกำไรสุทธิ 628.4 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีผลขาดทุน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูงที่ 12.2% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 7.9% โดยมีปัจจัยมาจากดีมานด์และราคาขายเฉลี่ยยางธรรมชาติในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการปรับราคาขายถุงมือยางให้สอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยอดขายยาง EUDR และการเข้าสู่ฤดูการเปิดกรีดยางตามปกติของประเทศไทยในเดือนมิถุนายน ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการและขยายตลาดเพื่อเพิ่มยอดขาย
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีปริมาณการขายยางธรรมชาติไตรมาส 2/2567 เกือบ 3.3 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่กว่า 3.18 แสนตัน ส่วนราคาขายยางธรรมชาติทุกประเภทเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 9% จากไตรมาสก่อนหน้า และบริษัทฯ เริ่มมีคำสั่งซื้อยาง EUDR จากลูกค้าหลากหลายประเทศ อาทิ ประเทศในสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น อเมริกา อินเดีย จีน ฯลฯ และทยอยส่งมอบแก่ลูกค้าแล้ว ซึ่งยาง EUDR ดังกล่าวมีมูลค่าสูง เนื่องจากเป็นยางที่จะต้องตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) แหล่งที่มาของผลผลิตว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่าและไม่ได้อยู่ในพื้นที่บุกรุกป่า ตามกฎหมายว่าด้วยสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าหรือ EU Deforestation Regulation (EUDR) ซึ่งสหภาพยุโรปจะเริ่มบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2567
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการรวม 49,498.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกลับมามีกำไรสุทธิ 298.7 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งในด้านดีมานด์ยางธรรมชาติในตลาดโลกและความต้องการสั่งซื้อยาง EUDR ที่มีอย่างต่อเนื่อง ทั้งผลิตภัณฑ์ยางแท่งและน้ำยางข้น จากลูกค้าในยุโรป อเมริกา จีน ญี่ปุ่น อเมริกาและอื่นๆ มีความมั่นใจว่าจะทำผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 ได้ดีและกลับมามีกำไรสุทธิต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2567 โดยบริษัทฯ คาดการณ์ปริมาณการขายยางธรรมชาติ 6.2 - 6.3 แสนตัน หรือเฉลี่ยไตรมาสละ 3.1 – 3.2 แสนตันในครึ่งปีหลังของปีนี้ ในจำนวนนี้คาดว่าจะมีปริมาณคำสั่งซื้อยาง EUDR ประมาณ 15-20% ของคาดการณ์ปริมาณการขายยางธรรมชาติทุกประเภทเกิดขึ้นในไตรมาส 3/2567 โดยบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมระบบตรวจสอบย้อนกลับผ่านแอปพลิเคชัน “Sri Trang Friends” (ศรีตรังเพื่อนชาวสวน) ของบริษัทฯ พร้อมทั้งเปิดตัว “ยางมีพิกัด (GPS)” ไปแล้วก่อนหน้านี้ และเตรียมการรองรับการตรวจและประเมินสินค้าจากซัพพลายเออร์ (Supplier Due Diligent)
ส่วนแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมยางธรรมชาติครึ่งปีหลัง คาดว่ามีดีมานด์ในระดับเดียวกับครึ่งปีแรกอย่างต่อเนื่อง โดยต้องติดตามผลจากปรากฏการณ์ลานีญาที่ทำให้มีฝนตกมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า จะส่งผลในเชิงบวกให้ต้นยางได้รับความชุ่มชื้นและมีผลผลิตเพิ่มขึ้น หรือกระทบในเชิงลบทำให้มีจำนวนวันกรีดยางลดลงและเป็นความเสี่ยงของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย