นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKR ผู้ดำเนินงานธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 67 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 3,019.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 256.77 ล้านบาท หรือ 9.30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 401.87 ล้านบาท ลดลง 38.19 ล้านบาท หรือ 8.68% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด 185 ล้านบาท ในอัตรา 0.09 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 สิงหาคม 2567 กำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 12 กันยายน 2567
โดยรายได้จากการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 2567 มีการเติบโตมาจากการเพิ่มศักยภาพการแพทย์ ทำให้มีผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยประกันสังคมเข้ามารับบริการรักษาโรคยากที่มีความซับซ้อนด้วยการผ่าตัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการเติบโตในส่วนของการให้บริการตรวจสุขภาพผ่านรูปแบบโรงพยาบาลเคลื่อนที่และการตรวจสุขภาพเชิงรุกในงานโครงการภาครัฐต่างๆ ทั้งนี้สาเหตุหลักที่กำไรมีการปรับตัวลดลง เนื่องจากในไตรมาส 2/67 สำนักงานประกันสังคมได้มีการปรับอัตราค่าบริการทางการแพทย์ ประเภทผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง ( AdjRW>2) สำหรับข้อมูลงวด Statement 6611-6702 ของปี 2566 จากเดิม 12,000 บาท/เคส เป็น 7,200 บาท/เคส ซึ่งรายได้ที่ถูกปรับอัตราจ่ายดังกล่าว บริษัทได้บันทึกเข้ามาในงบไตรมาส 2/67 เต็มจำนวน 100% แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบต่อเนื่องไปยังช่วงครึ่งหลังของปี 2567
นายสุริยันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมทั้งปี 2567 บริษัทจะสามารถสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากกลยุทธ์การเพิ่มศักยภาพการแพทย์ผ่านสถาบันการแพทย์ชั้นนำ (Center of Excellence) ทั้ง 6 สถาบัน ได้แก่ สถาบันกระดูกและข้อ, สถาบันโรคหัวใจ, สถาบันกุมารเวช, สถาบันสุขภาพเฉพาะทางสตรี, สถาบันหลอดเลือดและระบบประสาทและสถาบันทางเดินอาหารและตับ สำหรับไตรมาส 3/67 เครือโรงพยาบาลศิครินทร์ เปิดตัว “สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน” เป็นการต่อยอดจาก “ศิครินทร์เฉพาะทาง 24 ชั่วโมง” ภายใต้แนวคิดเราเป็นมากกว่าศูนย์ฉุกเฉิน โดยมีทีมแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินให้การรักษาความเจ็บป่วยเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน รวมถึงมีแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจวินิจฉัยโรค นอกจากนี้ผู้ป่วยยังสามารถเข้าถึงกระบวนการวินิจฉัยผ่านศูนย์บริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และศูนย์รังสีวินิจฉัยได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งยังสามารถรักษาโรคยากที่มีความซับซ้อนด้วยการผ่าตัดทันที ซึ่งจากที่กล่าวมาทั้งหมด เพื่อเดินหน้ายกระดับมาตรฐานโรงพยาบาลสู่สากลระดับโลก ภายใต้การเป็นผู้นำโรงพยาบาลด้านการรักษาโรคยากซับซ้อนด้วยการผ่าตัดของประเทศไทย
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้รับคะแนนสูงสุด 100 คะแนนเต็ม หรือระดับ “ดีเยี่ยม” จากการประเมินจากโครงการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น หรือ “AGM Checklist” ประจำปี 2567 โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (Thai Investors Association) และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ตอกย้ำการเป็นต้นแบบของบริษัทที่มีการสื่อสารระหว่างผู้ถือหุ้นและผู้บริหารได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินธุรกิจที่มีการบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาลที่ดี มีแนวทางกำกับดูแลกิจการที่คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย รวมถึงมีความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องตามเป้าหมายบริษัทในการยกระดับสู่การเป็นองค์กรระดับประเทศที่มีศักยภาพการด้านแข่งขัน พร้อมสร้างเติบโตอย่างยั่งยืน
ที่มา: บียอร์นไออาร์