นายภักดี เหล่างาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ MCA เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโต ผ่านการให้บริการด้านแผนกลยุทธ์ทางการตลาด และการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดแบบ One-stop Service Marketing Solution สะท้อนถึงภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2567 จนสร้าง“All Time High”ตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ โดยมีรายได้รวมที่ 311.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 (YoY) และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 12.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.04 (YoY) ส่วนไตรมาส 2/2567 มีรายได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้แตะ 156.07 ล้านบาท ขณะกำไรสุทธิ อยู่ที่ 5.79 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับงานในการจัดกิจกรรมทางการตลาดแบบครบวงจรให้กับลูกค้าสัญญาระยะยาวเพิ่มมากขึ้น โดยในไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มีลูกค้าเพิ่มขึ้น 9 บริษัท มูลค่ารวมทั้งสิ้น 70.72 ล้านบาท ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีลูกค้าเพิ่มขึ้น 37 บริษัท 84 แบรนด์ ส่งผลให้บริษัทฯ มีการให้บริการลูกค้ารวม 135 บริษัท 273 แบรนด์ ประกอบกับ บริษัทฯ ได้มีการนำเงินที่ได้รับจากขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) มาบริหารจัดการเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจให้มีการเติบโตที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ หากพิจารณา 5 กลุ่มธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรก แบ่งเป็น 1. ธุรกิจบริการจัดกิจกรรมทางการตลาดและดิจิทัล มีรายได้ 83.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.35 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เป็นผลจากบริการด้าน Outsourcing Coordinate มีงานเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีลักษณะการว่าจ้างงานแบบต่อเนื่อง และเป็นสัญญาระยะยาว ประกอบกับบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาการให้บริการด้าน Digital เพื่อให้เติบโตและมีศักยภาพในการให้บริการ เพื่อให้สอดคล้องกับการแข่งขันตามความต้องการของตลาด และบริการจัดกิจกรรมทางการตลาดและดิจิทัลบริษัทฯ ได้รับสัญญาในปี 2567 ไว้แล้ว 6 บริษัท มูลค่ารวมทั้งหมด 32.79 ล้านบาท
- ธุรกิจบริการบรรจุและจัดส่งสินค้า มีรายได้ 6.09 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 19.34% เนื่องจากจำนวนลูกค้าลดลง แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคมมุ่งเน้นให้บริการที่ครอบคลุม ทั้งในเรื่องของการบรรจุหีบห่อ, จัดส่งสินค้า, การ Set Up รวมถึงการรื้อถอนโครงสร้าง การแท็กสินค้าผ่านระบบ Application และเป็นบริการที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการให้บริการด้านอื่น ๆ ทำให้บริการบรรจุและจัดส่งสินค้าบริษัทฯ ได้รับสัญญาต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 จำนวน 1 บริษัท มูลค่ารวมทั้งหมด 5.09 ล้านบาท
- ธุรกิจบริการพนักงานแนะนำสินค้า มีรายได้ 75.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.41 จากการได้รับงานให้บริการลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับบริษัทฯ เพิ่มงานบริการด้าน Outsourcing PG, BA มากขึ้นโดยเป็นการบริหารจัดการพนักงานเชียร์ขายสินค้าในรูปแบบพนักงานประจำที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง และสัญญาระยะยาวเป็น 1-3 ปี โดยในส่วนของบริการพนักงานแนะนำสินค้า บริษัทฯ ได้รับสัญญาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 เรียบร้อยแล้วจำนวน 9 บริษัท มูลค่ารวมทั้งหมด 94.05 ล้านบาท
- ธุรกิจบริการจัดเรียงสินค้า มีรายได้ 123 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 96.17 เป็นผลมาจากบริษัทฯ มีลูกค้าเพิ่มขึ้นจำนวน 29 บริษัท 92 แบรนด์ ประกอบกับรายได้จากบริการจัดเรียงสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการขยายพื้นที่และสาขาที่ให้บริการที่ครอบคลุมในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ, ปริมณฑล และต่างจังหวัด รวมถึงการเพิ่มขึ้นของงานบริการด้าน Outsourcing Merchandiser ซึ่งได้รับสัญญาการทำงานอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีเรียบร้อยแล้ว จำนวน 14 บริษัท มูลค่ารวมทั้งหมด 223.62 ล้านบาท และ 5. ธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้า มีรายได้ 23.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 64.85 เนื่องจากบริษัทฯ มีลูกค้าเพิ่มขึ้น 2 บริษัท 2 แบรนด์ ทำให้ในช่วงครึ่งปีของปี 2567 มีลูกค้าจำนวน 6 บริษัท 17 แบรนด์ เพิ่มขึ้น (YoY) ที่มีลูกค้า 4 บริษัท 15 แบรนด์ ประกอบกับธุรกิจผู้จัดจำหน่ายสินค้าเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ เพื่อให้มีการบริการที่ครบวงจร และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในกลุ่มเจ้าของสินค้าที่มองหาผู้จัดจำหน่ายสินค้าที่มีความเชี่ยวชาญในการขายและการตลาด รวมทั้งสามารถช่วยให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนยอดขายให้มีการเติบโตมากขึ้น
นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของสินค้า และผู้จัดจำหน่ายสินค้าในแบรนด์ SMOOTH E, DENTISTE', Dr. SMOOTH E, PRO SKIN, BLISTEX, MARO และ PAlMER'S ในการเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าในช่องทาง Traditional Trade ในพื้นที่ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มขึ้น จากพื้นที่เดิมที่ได้รับมอบหมาย โดยสัญญางานใหม่ที่ได้รับการตั้งแต่ดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มของรายได้ที่จะเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังนี้
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์