“โนเบิล” ขายดีต่อเนื่องครึ่งปีแรกกวาดยอดขาย 5,600 ล้านบาท ตุน Backlog 21,000 ล้านบาท จ่อทยอยรับรู้ถึงปี 2570

ศุกร์ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๗ ๑๕:๑๙
บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ หรือ “NOBLE” โชว์ฟอร์มแกร่ง โตสวนตลาด ไตรมาส 2/2567 กวาดกำไร 124 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% หลังรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์พุ่ง 1,550 ล้านบาท หนุนครึ่งปีแรกกำไรสุทธิแตะ 200 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีที่แล้ว ขณะที่ยอดขายครึ่งปีแตะ 5,600 ล้านบาท รับแรงหนุนจากยอดขายต่างชาติพุ่ง เดินเกมรุกเร่งตุนยอดขายรอโอนต่อเนื่อง ล่าสุดมี Backlog ในมือรวมมูลค่าประมาณ 21,000 ล้านบาท จ่อทยอยรับรู้ถึงปี 2570 ขณะที่กำลังซื้อกลุ่ม 5 ล้านบาทขึ้นไป ยังไปได้สวย

นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “NOBLE” ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการที่อยู่อาศัยในทำเลชั้นนำของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 แม้ว่ากำลังซื้อภายในประเทศจะชะลอตัว หนี้ครัวเรือนจะเพิ่มขึ้น ภาวะดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับที่สูง สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ แต่บริษัทฯ ยังสามารถดำเนินงานได้ตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งสะท้อนถึงงบไตรมาส 2/2567 โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 2,640 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิที่ 124 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% (YoY) จึงส่งผลให้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 4,425 ล้าน และมีกำไรสุทธิที่ 203 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10 % (YoY) โดยสาเหตุที่ผลประกอบการเติบโตขึ้น มาจากการส่งมอบยอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่ในมือ ซึ่งในไตรมาส 2/2567 มีโครงการสร้างเสร็จใหม่ ได้แก่ โครงการ Nue Connex Condo Don Mueang (นิว คอนเน็กซ์ คอนโด ดอนเมือง)

สำหรับโครงการไฮไลท์ที่สร้างยอดโอนกรรมสิทธิ์ให้บริษัทฯ มาจาก 2 โครงการที่ทยอยโอนกรรมสิทธิ์เป็นหลักในช่วงครึ่งปีแรก ได้แก่, 1.โครงการ Nue Noble Ratchada Lat-Phrao (นิว โนเบิล รัชดา ลาดพร้าว) เป็นโครงการร่วมทุน มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 1,800 ล้านบาท และสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้แล้ว 1,700 ล้านบาท และ 2.โครงการ Nue Connex Condo Don Mueang (นิว คอนเน็กซ์ คอนโด ดอนเมือง) ที่เพิ่งสร้างเสร็จและเริ่มมีการโอนกรรมสิทธิ์ ในไตรมาส 2/2567 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่โอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องอื่นๆ เช่น โครงการ Noble Around Ari (โนเบิล อราวน์ อารีย์), โครงการ Noble State 39 (โนเบิล สเตท 39) และโครงการ Nue Noble Fai Chai - Wang Lang (นิว โนเบิล ไฟฉาย-วังหลัง) รวมถึงโครงการแนวราบอื่นๆ

ขณะที่ยอดขาย (Presale) ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 (มกราคม-มิถุนายน 2567) บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้ที่ 5,600 ล้านบาท หลักๆ มาจากยอดขายจากลูกค้าต่างชาติที่เติบโตสูง โดยครึ่งปีแรกบริษัทฯ มีสัดส่วนยอดขายจากลูกค้าต่างชาติสูงเฉลี่ย 60% ของยอดขายทั้งหมด ส่งผลให้บริษัทฯ วางกลยุทธ์ขยายตลาดโดยเฉพาะตลาดต่างชาติ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นสอดรับกับการเพิ่มโอกาสในการขายที่อยู่อาศัยของบริษัทฯ ซึ่งในปี 2563 บริษัทฯ มียอดขายจากลูกค้าต่างชาติที่ 1,800 ล้านบาท

ขณะที่ในปี 2566 ยอดขายต่างชาติเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 5,300 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตมากกว่า 2 เท่าตัว ส่วนในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มียอดขายต่างชาติที่ 2,200 ล้านบาท และในไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มียอดขายต่างชาติที่ 1,100 ล้านบาท

“สำหรับโครงการที่สร้างยอดขายได้ดีในช่วงครึ่งปีแรก คือ โครงการ The Embassy Wireless ( ดิ เอ็มบาสซี ไวร์เลส) ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับกลุ่ม “ฮ่องกงแลนด์” โดยโครงการดังกล่าวมียอดขายจากลูกค้าต่างชาติสูง นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทฯ มีการเปิดตัวโครงการใหม่แล้ว จำนวน 2 โครงการ เป็นโครงการแนวราบประเภทบ้านเดี่ยว ประกอบด้วย 1.โครงการ Noble Norse Krungthep Kreetha (โนเบิล นอร์ส กรุงเทพกรีฑา) และ 2.โครงการ Nue Shade Ratchaphruek - Chaengwattana (นิว เฌด ราชพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ) ซึ่งแต่ละโครงการมีกระแสตอบรับที่ดี

นายธงชัย ยังได้กล่าวถึงทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือรวมมูลค่าประมาณ 21,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 กว่า 6,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกกว่า15,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ถึงปี 2570 ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีสินค้าพร้อมขาย (สต็อก) ในมืออีกมาก ซึ่งเพียงพอสำหรับรองรับความต้องการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากต้องมีการพัฒนาพื้นที่นั่นๆ บริษัทฯ ก็พร้อมดำเนินการได้ทันที

“ตลาดอสังหาฯ ช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยเฉพาะสินค้าในระดับต่ำกว่า 5 ล้านบาทมีแนวโน้มชะลอตัว ส่วนสินค้าในระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าหลักของ NOBLE ยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่กลุ่มดังกล่าวเกิดการชะลอการตัดสินใจซื้อ ทั้งนี้ ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้ออยู่แล้ว เพียงแค่รอจังหวะเวลาในการซื้อ ซึ่งหากราคาและสินค้าตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า กลุ่มดังกล่าวก็จะตัดสินใจซื้อทันที ส่วนการแข่งขันของตลาดอสังหาฯ ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มองว่ายังคงมีการแข่งขันที่สูง อาทิ การออกแคมเปญทางการตลาด การออกโปรโมชั่นจากกลุ่มผู้ประกอบการ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งจังหวะนี้ถือเป็นโอกาสสำหรับคนที่มีกำลังซื้อ และหากมีมาตรการลดดอกเบี้ยลง ก็น่าจะทำให้การตัดสินใจซื้อดีขึ้นด้วย” นายธงชัย กล่าว

ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version