นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า ESG Rating สถาบันไทยพัฒน์ได้ประกาศให้ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NER) ติดอันดับ ESG100 ประจำปี 2567 จากการคัดเลือกหลักทรัพย์จดทะเบียนทั้งหมด 920 หลักทรัพย์ ให้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล (Environmental Social and Governance: ESG) ในกลุ่มธุรกิจการเกษตร (Agribusiness) ซึ่งบริษัทมีรายชื่ออยู่ในทำเนียบ ESG100 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน (พ.ศ.2562-2567) นับตั้งแต่ที่เป็นบริษัทจดทะเบียน
การที่บริษัทได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 บริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 สะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของบริษัทที่มุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และหลักบรรษัทภิบาล (Corporate Governance) หรือ ESG และเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินธุรกิจเพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นยั่งยืนที่สามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
บริษัทฯ ยังคงดำเนินโครงการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ โดยเน้นการวางแผนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ร่วมกับการลดต้นทุนการผลิตและต้นทุนในการดำเนินงาน ทั้งการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร การใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ และการใช้ไบโอแก๊สที่ผลิตเพื่อใช้งานเองที่ช่วยลดต้นทุนค่าพลังงานของบริษัทได้เป็นอย่างดี
โดยตัวอย่างการดำเนินโครงการที่สำคัญ ได้แก่ โครงการห่วงโซ่อุปทานเพื่อความยั่งยืน โครงการตลาดสีเขียว โครงการห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ โครงการ NER ร่วมใจลดขยะพลาสติก โครงการตรวจสุขภาพกลุ่มเปราะบาง โครงการส่งสุขความรู้ สู่ดวงใจพนักงาน ผ่านคาราวานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น
สำหรับการจัดอันดับของสถาบันไทยพัฒน์ จะพิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และผลประกอบการของบริษัทควบคู่ไปพร้อมกัน ขณะที่การจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนด้านการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจในครั้งนี้ ถือเป็นแหล่งข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่มิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป
ที่มา: ธามดี พลัส