รพ. สังกัด กทม. เตรียมพร้อมเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิง หากพบผู้ต้องสงสัยให้แยกกักตัวทันที

พุธ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๗ ๑๖:๕๗
นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม. กล่าวถึงมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง (MPOX) ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สนพ. ได้ติดตามเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง โดยสั่งการให้ทุกโรงพยาบาลในสังกัด กทม. เฝ้าระวังคนไข้ทั้งห้องฉุกเฉิน (ER) และผู้ป่วยนอก (OPD) รวมถึงโรงพยาบาลที่มีคลินิกเฉพาะทาง เช่น คลินิกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คลินิกโรคผิวหนัง คลินิกรักษาผู้ติดเชื้อ HIV หากพบผู้ป่วยให้ส่งยืนยันการติดเชื้อ ผ่านสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) สอบสวนโรคทุกราย เฝ้าระวังควบคุมโรคในพื้นที่ให้เร็วที่สุด เพื่อลดการแพร่ระบาด อีกทั้งมอบหมายโรงพยาบาลสิรินธร เปิดศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอุบัติใหม่ขึ้น เพื่อติดตามข้อมูลและควบคุมดูแลสถานการณ์โรคฝีดาษลิงอย่างใกล้ชิด หากพบผู้ป่วยที่อาการต้องสงสัยให้แยกกักตัวและแจ้งผู้บริหาร กทม. และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทราบทันที
รพ. สังกัด กทม. เตรียมพร้อมเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิง หากพบผู้ต้องสงสัยให้แยกกักตัวทันที

นอกจากนั้น ได้รณรงค์เน้นย้ำส่งเสริมให้ความรู้และคำแนะนำประชาชนเกี่ยวกับการป้องกันตัว ไม่คลุกคลีใกล้ชิดผู้อื่นนอกบ้าน ไม่รับประทานอาหาร ใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น ไม่สำส่อนทางเพศ หมั่นสังเกตผู้ที่พบปะว่า มีอาการไม่สบายหรือไม่ การใส่หน้ากากอนามัยจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ ได้มาก โดยพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงยังคงมาจากการมีเพศสัมพันธ์กับคนหลายคนและคนแปลกหน้า ซึ่ง สนพ. ได้ให้ความสำคัญในการเฝ้าระวัง คัดกรอง แยกกักรักษาผู้ป่วยและสื่อสารถึงประชาชนกลุ่มเสี่ยงปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รวมถึงข้อควรปฏิบัติเมื่อพบอาการเข้าข่ายโรค โดยเฉพาะในกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว หรือย่านพักอาศัยของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ หากประชาชนมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้สงสัยฝีดาษลิง หรือการสัมผัสใกล้ชิด กอดจูบ ลูบ คลำ พูดคุยระยะ 1 เมตร โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือเคยดูแลผู้ป่วยสงสัยฝีดาษลิงให้สังเกตอาการตนเองเบื้องต้นภายใน 21 วัน หากมีผื่น มีตุ่มน้ำ ตุ่มหนองขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือบริเวณรอบ ๆ มือ เท้า หน้าอก ใบหน้า ปาก มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณหลังหู คอ ขาหนีบ ให้เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที พร้อมเน้นย้ำผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ หรือมีโรคประจำตัว อาจเกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ปอดบวม หรือเสียชีวิต หากพบผู้ป่วยเข้าข่ายต้องสงสัยจะแยกกักตัวทันทีและรายงานข้อมูลตามแนวทางที่กำหนดต่อไป ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษแม้จะช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อดังกล่าวได้ แต่การฉีดวัคซีนดังกล่าวควรทำเฉพาะในบุคคลที่ต้องทำงานมีความเสี่ยง หรือใกล้ชิดกับคน หรือสัตว์ที่ติดเชื้อเท่านั้น และวัคซีนยังสามารถรับได้ภายหลังการได้รับเชื้อไม่เกิน 14 วัน หากมีอาการเจ็บป่วยให้รีบพบแพทย์ทันที หรือพบแพทย์ผ่าน Telemedicine ผ่านแอปพลิเคชัน “หมอ กทม.” เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการได้อย่างรวดเร็ว แล้วแยกกักตัว เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ กทม. โทร. 1646 ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา: กรุงเทพมหานคร

รพ. สังกัด กทม. เตรียมพร้อมเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิง หากพบผู้ต้องสงสัยให้แยกกักตัวทันที

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๙ ดั๊บเบิ้ล เอ มอบอุปกรณ์เครื่องเขียน ช่วยเหลือฟื้นฟูโรงเรียนประสบภัยน้ำท่วม
๑๗:๑๐ เปิดประสบการณ์การทำความสะอาดห้องน้ำแบบ ไม่เปลืองแรงขัด โดยแบรนด์เป็ด และ คุณ คิมซอนโฮ
๑๗:๐๐ สพร. 42 หนองคาย มอบใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงาน สาขา ช่างบำรุงรักษารถยนต์ ระดับ 1
๑๗:๒๖ ไทเชฟแนะนำ ชุดรวมผงทำอาหาร อร่อยถูกใจ
๑๗:๕๐ เคทีซีร่วมกับบางกอกแอร์เวย์สและดุสิตธานี จัดกิจกรรม Exclusive Trip ขอบคุณสมาชิก บัตรเครดิต KTC-BANGKOK AIRWAYS
๑๗:๕๒ มวยไทยทีมภาคเหนือชนะทีมภาคกลาง 2:1 ในศึก Isuzu Thailand Championship 2024 แชมป์ 2 รุ่นเข้าชกเวทีมวยโลก THAI FIGHT
๑๗:๓๓ นิตยสารแพรวฉบับ ต.ค. 67 แจกของขวัญ Special Gifts 2024 ผลิตภัณฑ์แบรนด์ดัง บิวตี้ แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ มูลค่ารวมกว่า 2
๑๗:๐๐ A5 ชูแนวทาง ESG ได้รับ Transition Loan จากกรุงไทย เดินหน้าเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน
๑๗:๕๕ คงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ห้องอาหารอูโนมาสได้รับรางวัล Restaurantes de Espa?a Award 2024 โดยสถาบัน Spanish Institute for Foreign Trade
๑๗:๓๑ บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุนผสม ThaiESG เน้นหุ้นดัชนี SET ESG - ESG Bond เปิดขาย 24-29 ต.ค.นี้