ดร.วีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA เปิดเผยว่าแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง คาดมีการเติบโตที่ดีกว่าใครึ่งปีแรกที่ผ่านมา จาก งบประมาณภาครัฐบาลที่จะทยอยออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ จะสนับสนุนให้งานโครงการขยายตัวในครึ่งปีหลังนี้ ขณะที่ งานก่อสร้างภาคเอกชน มีปัจจัยจากการเติบโตจากการลงทุนก่อสร้างโครงการในกลุ่มอาคารสำนักงาน และโรงแรม เป็นต้น สอดคล้องกับการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศและการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว ส่งผลดีต่อ TEKA ในฐานะผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำของประเทศไทย ที่โดดเด่นในงานอาคารสูงและงานอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่มีฐานลูกค้าอยู่ในกลุ่มภาคเอกชน มั่นใจ สนับสนุนผลงานทั้งปีรายได้เติบโตอยู่ที่ 2,200 ล้านบาท หรือเติบโต 10% จากปีก่อน โดยรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit) ที่ 10-15% อย่างไรก็ตาม TEKA ยังให้ความสำคัญในการบริหารความเสี่ยงด้านต้นทุน และติดตามความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศอย่างใกล้ชิด ย้ำจุดยืน ผู้นำด้านการก่อสร้างอาคาร คุณภาพดีมีมาตรฐานอย่างแท้จริง
ล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มี Backlog อยู่ที่ราว 3,160 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้รายได้ในช่วงปี 2567-2568 โดยแบ่งเป็นรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ประมาณ 1,200 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดไปและยังมีการมุ่งหวังที่จะเพิ่ม Backlog งานก่อสร้างใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ปัจจุบันมีงานใหม่ๆ ที่อยู่ระหว่างยื่นประมูลอีกกว่าหมื่นล้านบาท คาดว่าจะได้รับงานใหม่เข้ามาในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 2,600 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีแรกนี้ บริษัทได้รับงานไปแล้ว 1,600 ล้านบาท โดยคาดว่าครึ่งปีหลังจะมีงานเข้ามาอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท
“ภาพรวมผลงานปีนี้แม้จะเป็นปีที่ท้าทายของอุตสาหกรรมก่อสร้างและเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ดี TEKA มุ่งมั่นในการบริหารจัดการเพื่อส่งมอบงานโครงการที่มีคุณภาพ ในระยะเวลาที่กำหนด สนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก 2567 เติบโตอย่างน่าประทับใจ มีกำไรสุทธิเกือบ 89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142% และมีรายได้จากการก่อสร้างกว่า 1,001 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ด้วยการให้บริหารจัดการต้นทุนอย่างรัดกุม และงานในมือที่เตรียมส่งมอบในครึ่งปีหลังนี้คาดอยู่ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวมการประมูลงานใหม่เข้ามาเสริมทัพ สนับสนุนเป้าหมายรายได้ปีนี้ให้เติบโตตามที่วางไว้” ดร.วีระศักดิ์ กล่าว
สำหรับกลยุทธ์ที่บริษัทฯ มุ่งเน้นพัฒนาเพื่อรักษาและเสริมสร้างความไว้วางใจ จะมุ่งเน้น 3 ส่วน ได้แก่ Business Growth โดยรักษาฐานลูกค้าเดิม หาตลาดงานก่อสร้างใหม่ๆ ลงทุนขยายธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และบริหารความเสี่ยงเพื่อรับมือสภาวะเศรษฐกิจ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ในด้าน Smart People มีการปรับโครงสร้างองค์กร มุ่งพัฒนาบุคลากร และบริหารกำลังพลให้มีประสิทธิภาพ และ Innovative Culture พร้อมสร้างและพัฒนาองค์กรด้วยนวัตกรรม ตอกย้ำผู้นำด้านการก่อสร้างอาคารชั้นนำของประเทศ
ที่มา: IR PLUS