- บันทึกความเข้าใจนี้ จะเพิ่มความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศไทยและอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าของแบรนด์และผู้ขายสินค้าของไทยสามารถส่งออกสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซได้มากขึ้น โดยการจำหน่ายสินค้าบน Amazon ในสหรัฐอเมริกา
- ธุรกิจในไทยหลายพันแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้นำสินค้ามาจำหน่ายบนเว็บไซต์อเมซอน ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ยอดขายเฉลี่ยของผู้ประกอบการไทยที่จำหน่ายสินค้าบนอเมซอนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึงระดับสองหลักเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
- ผลสำรวจจากอเมซอนพบว่า 65% ของธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อย และขนาดเล็กในประเทศไทย มองว่าสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในตลาดอีคอมเมิร์ซที่สำคัญที่สุดสำหรับการขยายธุรกิจในช่วงห้าปีข้างหน้า
- งานแสดงสินค้า TOPTHAI x Amazon Pavilion จัดขึ้นโดย DITP ที่ไทม์สแควร์ นครนิวยอร์ก ในวันที่ 3 กันยายน จะมีบูธพิเศษเฉพาะสำหรับแบรนด์ที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ TOPTHAI ที่จำหน่ายสินค้าบน Amazon.com
วันนี้ ในงานแสดงสินค้า TOPTHAI Cross Border e-Commerce Day 2024 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (Department of International Trade Promotion: DITP) และอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง (Amazon Global Selling: AGS) ได้ประกาศลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MoU) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการส่งออกสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซให้แก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium-sized Enterprises: SME) ของประเทศไทย
ภายใต้บันทึกความเข้าใจนี้ DITP และ AGS จะร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการแบรนด์ไทยให้เข้าถึงโอกาสในการส่งออกสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซในสหรัฐอเมริกา โดยจะจัดให้มีการฝึกอบรม รวมถึงให้คำปรึกษาและสนับสนุนแก่ผู้ที่ต้องการจำหน่ายสินค้าบนเว็บไซต์อเมซอนในสหรัฐอเมริกา (amazon.com) ตามข้อมูลจาก Statista ในปี 2566 สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีรายได้รวมจากอีคอมเมิร์ซสูงเป็นอันดับที่สองของโลก มีมูลค่าถึง 1.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และจากผลสำรวจของอเมซอนที่จัดทำโดย Access Partnership ในปีเดียวกัน พบว่ามากกว่า 65% ของธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อย และขนาดเล็ก (Micro, Small and Medium-Sized Enterprises: MSME) ของไทย มองว่าสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีความสำคัญในช่วงห้าปีข้างหน้านี้
นายภูษิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า "กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีความยินดีที่ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง เนื่องจากเชื่อมั่นว่าจะช่วยเร่งการส่งออกสินค้าออนไลน์ของผู้ประกอบการไทยไปยังตลาดโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งเสริมสร้างชื่อเสียงระดับสากลให้กับสินค้าไทย การส่งออกเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย"
นายอนันต์ ปาลิต หัวหน้า อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า "เราขอแสดงความขอบคุณ DITP สำหรับความร่วมมือที่ดีเยี่ยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเราเชื่อมั่นว่าบันทึกความเข้าใจฉบับนี้จะต่อยอดความร่วมมือของเราให้พัฒนาไปได้อีกไกล จากผลการสำรวจของอเมซอน พบว่า 95% ของธุรกิจในไทยเห็นด้วยว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจในการอบรมและสัมมนาจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการส่งออกสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซได้ดี ซึ่งจะเป็นกิจกรรมที่อเมซอนและ DITP จะดำเนินร่วมกันภายใต้การลงนามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ "
ตามบันทึกความเข้าใจนี้ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่งจะเข้าร่วมงานโรดโชว์ของ DITP ในประเทศไทย เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงโอกาสในการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ ในระหว่างงานดังกล่าว AGS จะให้ความรู้แก่เจ้าของแบรนด์และผู้ประกอบการในประเทศไทยเกี่ยวกับวิธีการจำหน่ายสินค้าบนเว็บไซต์อเมซอนในสหรัฐอเมริกา รวมถึงแนวโน้มและความนิยมของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา ในช่วง 12 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มิถุนายน 2567 หมวดหมู่สินค้า 5 อันดับแรกที่ผู้ขายในไทยจำหน่ายบนเว็บไซต์อเมซอนในสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงาม และสินค้ากีฬา
นอกจากนี้ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ยังจัดการฝึกอบรมเกี่ยวกับการเริ่มต้นใช้งานอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้แบรนด์และธุรกิจในประเทศไทยให้สามารถเปิดตัวบน Amazon.com ได้ การฝึกอบรมจะครอบคลุมหัวข้อต่างๆ เช่น การเปิดบัญชี การสร้างรายการสินค้า การจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศ การโฆษณาออนไลน์ เป็นต้น
ในที่สุด อเมซอน และ DITP จะยังคงร่วมมือกันเพื่อเพิ่มการเปิดตัวสินค้าไทยบนเว็บไซต์ Amazon.com ภายใต้โครงการ TOPTHAI โครงการนี้เป็นโครงการของ DITP ช่วยสนับสนุนแบรนด์สินค้าไทยคุณภาพสูงที่ผ่านการคัดเลือก ให้สามารถจำหน่ายสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศได้ โดย DITP จะคัดเลือกแบรนด์ที่เข้าร่วมโครงการ TOPTHAI และแนะนำให้กับอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง เพื่อเปิดตัวจำหน่ายสินค้าบน Amazon.com นอกจากนี้ DITP จะจัดให้มีบูธพิเศษ TOPTHAI Pavilion ที่ไทม์สแควร์ นครนิวยอร์ก ในวันที่ 3 กันยายน เพื่อจัดแสดงและประชาสัมพันธ์แบรนด์สินค้าไทยที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ TOPTHAI ซึ่งกำลังจำหน่ายสินค้าอยู่บนอเมซอน
นายวุฒินันท์ สังข์อ่อง เจ้าของแบรนด์ Tuff Sport ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ TOPTHAI และตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ เชี่ยวชาญในการออกแบบและผลิตกางเกงมวยไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเพิ่งเปิดตัวสินค้าบน Amazon.com กล่าวว่า "เรามุ่งมั่นที่จะเจาะตลาดสหรัฐอเมริกามาหลายปีแล้ว โดยในช่วงแรกเราทำการตลาดผ่านช่องทางออฟไลน์ซึ่งพบว่าเป็นเรื่องยาก จนกระทั่งเราตระหนักถึงประโยชน์ของบริการจัดการคลังสินค้าและจัดส่งของอเมซอน (Fulfillment By Amazon: FBA) ที่ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วสหรัฐอเมริกาได้อย่างง่ายดาย เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้าของเราบน Amazon.com ทีมอเมซอนในสหรัฐฯ จะเป็นผู้จัดเตรียม บรรจุหีบห่อ และจัดส่งสินค้าให้เรา รวมถึงให้บริการดูแลลูกค้าและจัดการคืนสินค้าด้วย นอกจากนี้ เรายังได้รับการสนับสนุนในการทำแคมเปญการตลาดบน Amazon.com จาก DITP หลังจากเข้าร่วมโครงการ TOPTHAI อีกด้วย"
ปาริฉัตร ศรีมนตรี หัวหน้าแผนกขายออนไลน์ จากแบรนด์ Wel-B Healthy Snacks ซึ่งเป็นแบรนด์และธุรกิจครอบครัวจากจังหวัดสมุทรสาครที่ได้รับการสนับสนุนจาก TOPTHAI เน้นการผลิตขนมขบเคี้ยวจากผลไม้อบแห้งที่ปราศจากน้ำมันและสารปรุงแต่ง ซึ่งได้เปิดร้านค้าปลีกบน Amazon.com กล่าวว่า "เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมโครงการนี้กับทาง DITP และอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง โครงการนี้ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับทีมของเราเท่านั้น แต่ยังให้โอกาสอันมีค่าในการเรียนรู้และเติบโตในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซระดับโลก การได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ทำให้เราได้รับมุมมองและความรู้ใหม่ ๆ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาธุรกิจออนไลน์ของเราให้เติบโตอย่างยั่งยืน"
นายอานันต์ ปาลิต กล่าวสรุปว่า "อเมซอน โกลบอล เซลลิ่งได้ช่วยให้ผู้ประกอบการในไทยหลายพันรายสามารถนำสินค้าไทยนับล้านชิ้นออกสู่ตลาดทั่วโลก โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ยอดขายเฉลี่ยของธุรกิจไทยบน Amazon.com สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ผู้ประกอบการไทยให้ความสนใจที่จะส่งออกสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น และเราสามารถช่วยให้แบรนด์ไทยขยายไปสู่ตลาดโลกและเปิดรับโอกาสในการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ ได้มากขึ้น ด้วยเครื่องมือที่เป็นนวัตกรรมตลอดจนการสนับสนุนจากอเมซอน และ DITP"
ที่มา: โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย)