บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation : IFC) ซึ่งเป็นสถาบันในกลุ่มธนาคารโลก (World Bank Group) ที่ระดมทรัพยากรทางการเงินเพื่อส่งเสริมการพัฒนาภาคเอกชนในประเทศที่กำลังพัฒนา ออกพันธบัตรเพื่อสังคมมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มอบให้เป็นสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีสุภาพสตรีเป็นเจ้าของหรือผู้นำธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบ (Gender-Inclusive Social Bond) หวังยกระดับความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงสร้างหลักประกันและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืน
"เราให้ความสำคัญกับความเสมอภาคทางการเงินและการได้รับบริการอย่างเท่าเทียมเสมอมา การส่งผ่านโอกาสที่สำคัญครั้งนี้จะช่วยให้เราขยายสิทธิการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อช่วยเหลือผู้คนในสังคมไทยได้มากยิ่งขึ้น และเป็นต้นแบบผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยที่สนับสนุนสังคมแห่งความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง" นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถพัฒนากรอบความผูกพันทางสังคมเพื่อขยายขีดจำกัดในการสร้างโอกาสทางการเงินแก่สตรี และลดความเหลื่อมล้ำทางเพศ ผ่านคำแนะนำของ IFC ภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลออสเตรเลียในแพลตฟอร์ม Women's Economic Empowerment, Financing และ Inclusion Platform (WEE-FIP) รวมถึงแนวทางปฏิบัติในการคุ้มครองลูกค้า ที่จะสนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตที่ยั่งยืนของ MTC โดยมุ่งเน้นเป็นแหล่งเงินทุนให้แก่ผู้ด้อยโอกาสในราคาที่เป็นธรรม และทำให้มั่นใจว่าเส้นทางการเติบโตของประเทศจะเป็นไปอย่างทั่วถึงและยั่งยืน
"ด้วยการเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินให้แก่ธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งมีสุภาพสตรีเป็นเจ้าของหรือผู้นำกิจการในประเทศไทย เราสามารถมีส่วนร่วมในการปลดล็อคศักยภาพอันสูงสุดและนำประโยชน์ดังกล่าวมาใช้เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งนำไปสู่รูปแบบการเติบโตและการพัฒนาที่แข็งแกร่งที่จะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2580" นาย Riccardo Puliti รองผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก IFC กล่าว
MTC ถือเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยในกลุ่ม NFBIs รายแรกของไทยที่สนับสนุนการเข้าถึงบริการสินเชื่อที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของหรือผู้นำธุรกิจ และยังคงให้ความสำคัญต่อการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพในมาตรฐานระดับสากลอย่างเท่าเทียม โดยร่วมมือกับสถาบันการเงินระดับโลกอย่าง IFC, ความร่วมมือรัฐบาลญี่ปุ่น (JICA) และรัฐบาลเยอรมนี (KfW DEG) เพื่อยกระดับและพัฒนากระบวนการปล่อยสินเชื่อตลอดห่วงโซ่ของกิจการ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของสังคม พร้อมทั้งรักษาผลประโยชน์และตอบสนองความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน จนได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการอยู่ในระดับ "ดีเลิศ" (5 ดาว) รวมถึงผลประเมินหุ้นยั่งยืน (ESG Rating) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในระดับ A และผลประเมิน MSCI Index ในระดับ AA สะท้อนการเป็นผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในมาตรฐานระดับโลก (World-class Thai Microfinance)
ทั้งนี้ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ยินดีระดมทรัพยากรทางการเงินร่วมกับสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศอีกหลายๆ แห่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อร่วมกันสร้างรากฐานและเสริมความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ รักษาเสถียรภาพทางสิ่งแวดล้อม และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับสังคมไทยอย่างยั่งยืนในทุกมิติ
ที่มา: เมืองไทย แคปปิตอล