กทม. เข้มงวดผู้ค้านอกจุดผ่อนผัน-เน้นย้ำให้ความสำคัญกับประชาชนที่ใช้ทางเท้า

พุธ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๗ ๑๗:๓๓
นายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม.กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์ผู้ค้านอกจุดผ่อนผันยอมเสียค่าปรับเพื่อขายต่อ เนื่องจากคุ้มค่ากว่าการเช่าที่ทำการค้าว่า กทม. ให้ความสำคัญกับการจัดระเบียบพื้นที่และการทำการค้าหาบเร่แผงลอยมาอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดนโยบายการจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่แผงลอยจะต้องให้ความสำคัญกับประชาชนที่ใช้ทางเท้าและใช้ถนนเป็นหลัก รวมถึงความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่ ส่วนการทำการค้าบนถนน หรือสถานสาธารณะ โดยเฉพาะทางเท้าต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้ทางเท้า อีกทั้ง กทม. พยายามจัดหาพื้นที่เอกชน หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ เพื่อจัดทำเป็นศูนย์อาหาร (Hawker Center) ให้เป็นรูปธรรม เน้นความโปร่งใสในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งจำกัดจำนวนผู้ค้าบนถนนหรือสถานสาธารณะ โดยแต่งตั้งคณะกรรมการในระดับกรุงเทพมหานครและระดับเขตเข้ามาดูแล
กทม. เข้มงวดผู้ค้านอกจุดผ่อนผัน-เน้นย้ำให้ความสำคัญกับประชาชนที่ใช้ทางเท้า

ทั้งนี้ ปัจจุบัน กทม. มีจุดทำการค้าที่ประกาศอนุญาตให้ทำการค้าได้จำนวน 68 จุด รวมผู้ค้า 3,876 ราย ซึ่งได้กำชับให้สำนักงานเขตควบคุม กำกับ ดูแล และบังคับการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ส่วนการทำการค้านอกจุดได้กำชับให้สำนักงานเขตบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยระหว่างดำเนินการฯ ให้จัดระเบียบโดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการทำการค้าในจุดผ่อนผันโดยอนุโลม พร้อมจัดทำแผนการจัดระเบียบ เช่น ยกเลิก ยุบรวม จัดระเบียบให้เรียบร้อย ตลอดจนยกระดับเป็นจุดผ่อนผันในจุดที่มีศักยภาพและมีความเหมาะสม โดยในปี 65 ได้ทำบัญชีการทำการค้านอกจุด จำนวน 726 จุด ผู้ค้า 15,858 ราย ซึ่งปัจจุบันมีการทำการค้านอกจุดลดเหลือ 381 จุด ผู้ค้า 10,988 ราย โดยยกเลิกจุดทำการค้าที่ก่อให้เกิดปัญหา มีการร้องเรียน และอื่น ๆ มาตามลำดับ  

 สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนได้กำชับให้สำนักงานเขตดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองและกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย อย่างเคร่งครัด รวมถึงให้ผู้บังคับบัญชาควบคุม กำกับ ดูแล อย่างใกล้ชิดอีกด้วย 

ที่มา: กรุงเทพมหานคร

กทม. เข้มงวดผู้ค้านอกจุดผ่อนผัน-เน้นย้ำให้ความสำคัญกับประชาชนที่ใช้ทางเท้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ