นายนภินทร กล่าวเพิ่มเติมว่า "การลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายครั้งนี้ ได้มีโอกาสเปิดงาน "เทศกาลส้มโอและของดีเมืองเวียงแก่น" ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดีของอำเภอเวียงแก่น เพื่อขยายช่องทางการตลาดสำหรับสินค้าชุมชนในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังได้พบปะพูดคุยกับเกษตรกร ผู้ประกอบการ รวมถึงหารือกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อมอบนโยบายและวางแนวทางในการส่งเสริมส้มโอเวียงแก่นให้สามารถขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ในอนาคต โดยปัจจุบันจังหวัดเชียงรายมีสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI แล้ว 8 สินค้า คือ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง สับปะรดนางแล สับปะรดภูแลเชียงราย ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ข้าวก่ำล้านนาชาเชียงราย และเครื่องเคลือบเวียงกาหลง ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนในจังหวัดมากกว่า 162 ล้านบาท
นายนภินทร กล่าวทิ้งท้ายว่า "กระทรวงพาณิชย์ยังคงมุ่งมั่นลงพื้นที่เพื่อส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสินค้าเกษตรที่มีอัตลักษณ์เฉพาะของชุมชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้าตามมาตรฐาน GI เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการตลาดโดยการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และขยายช่องทางการจำหน่ายทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ สำหรับเกษตรกรหรือชุมชนท้องถิ่นในจังหวัดใดที่สนใจนำสินค้าที่มีอัตลักษณ์และเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์มาขึ้นทะเบียน GI สามารถปรึกษาได้ที่ศูนย์บริการประชาชน ชั้น 3 กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 1368"
ที่มา: กรมทรัพย์สินทางปัญญา