บีโอไอ ผนึกกำลัง สมาคมไทยซับคอน - อินฟอร์มา จัดงาน " Mira and Subcon Thailand: The East 2024"

พฤหัส ๐๕ กันยายน ๒๕๖๗ ๑๕:๐๙
บีโอไอ ผนึกกำลัง สมาคมไทยซับคอน - อินฟอร์มา จัดงาน " Mira and Subcon Thailand: The East 2024" บูมลงทุนภาคตะวันออก ดันไทยศูนย์กลางชิ้นส่วนอาเซียน
บีโอไอ ผนึกกำลัง สมาคมไทยซับคอน - อินฟอร์มา จัดงาน Mira and Subcon Thailand: The East 2024

บีโอไอ จับมือสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ไทยซับคอน) บริษัท อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ พร้อมด้วยเครือข่ายอุตสาหกรรมภาคตะวันออก เปิดงาน "SUBCON Thailand : The East 2024" ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ขนทัพเทคโนโลยีชิ้นส่วนและโซลูชันการผลิตขั้นสูง เชื่อมโอกาสและยกระดับผู้ประกอบการภาคตะวันออก โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักร คาดสร้างมูลค่าเชื่อมโยงธุรกิจกว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมดันไทย "ศูนย์กลางการผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน"

ปัจจุบันภาคตะวันออกถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ทั้งในแง่ของการส่งออก ท่องเที่ยว ตลอดจนภาคการผลิตที่มีการเปิดโรงงานแห่งใหม่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงภาคการลงทุน โดยข้อมูลภาพรวมการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเม็ดเงินลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และมาจากอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์และชิ้นส่วน ด้วยโอกาสและความสำคัญดังกล่าว ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตของประเทศไทย ทั้งจากสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ไทยซับคอน) และอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมกันเปิดงาน " Mira and Subcon Thailand: The East 2024" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยมีเป้าหมายที่สำคัญในการมุ่งสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคตะวันออก สร้างเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจในอุตสาหกรรมสำคัญ ควบคู่ไปกับการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยของภาคการผลิต และนำพาไทยเป็น "ศูนย์กลางการผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน"

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ภาคตะวันออกถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ โดยเฉพาะด้านการลงทุน การค้า และการท่องเที่ยว จากความโดดเด่นของโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพพร้อมรองรับการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือน้ำลึก สนามบินนานาชาติระบบโลจิสติกส์ ระบบโทรคมนาคม ไฟฟ้า ประปา และนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว โดยภาพรวมการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในภาคตะวันออก ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 มีจำนวน 625 โครงการ เงินลงทุนรวม 211,569 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 46 ของเงินลงทุนทั้งหมดของประเทศ นับว่าภาคตะวันออก เป็นพื้นที่รองรับการลงทุนที่มีมูลค่าสูงที่สุดของประเทศไทย โดยเฉพาะใน 3 คลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ ยานยนต์และยานยนต์ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์

เพื่อเป็นการยกระดับการลงทุนและซัพพลายเชนในพื้นที่ภาคตะวันออก บีโอไอ จึงได้ผนึกกำลังสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ไทยซับคอน) และอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ พร้อมด้วยภาคีเครือข่าภาคอุตสาหกรรม ร่วมเปิดงาน "SUBCON Thailand : The East 2024" ระหว่างวันที่ 4 - 6 กันยายน 2567 เวลา 09.00 - 17.00 น. ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา จ.ชลบุรี  ซึ่งเป็นการจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และขยายพื้นที่เป้าหมายให้ครอบคลุม 8 จังหวัดในภาคตะวันออก ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ประกอบกับมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ สร้างการเชื่อมโยงของอุตสาหกรรมระหว่างจังหวัด บีโอไอจึงได้ร่วมจัดงานครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้ผลิตชิ้นส่วนในพื้นที่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการภาคตะวันออกให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น รองรับการลงทุนใหม่ ๆ ที่จะเข้ามา ผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียนอีกทั้งยังสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจแลกเปลี่ยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยของภาคการผลิต เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ต้องมีทั้งความ Smart และ Green

ไฮไลท์ของการจัดงานในครั้งนี้ ได้มีผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเข้าร่วม เพื่อเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการรายใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยจะมีการจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อรายสำคัญกว่า 100 ราย ในส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น บริษัท Isuzu, Kawasaki Motors อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บริษัท Midea, Chicony Power อุตสาหกรรม PCB เช่น บริษัท Sanmina-SCI Systems, Techman Electronic เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะเกิดการจับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 600 คู่ และสร้างมูลค่าการเชื่อมโยงธุรกิจกว่า 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Buyers' Village แสดงชิ้นส่วนที่ผู้ซื้อมีความต้องการจัดซื้อและจัดหาผู้รับช่วงการผลิต รวมถึงกิจกรรม Sourcing Day ที่บีโอไอจัดร่วมกับ บริษัท โฟตอน ซีพี มอเตอร์ จำกัด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ซัพพลายเชนของผู้ผลิตรายสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ อีกทั้งยังมีบูธให้คำปรึกษา (Industrial Clinic) และงานสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในอุตสาหกรรมใหม่และการนำเทคโนโลยีเข้ามายกระดับมาตรฐานการผลิต

นายชนินทร์ ขาวจันทร์ นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ภาคตะวันออกมีนิคมอุตสาหกรรมกว่า 40 แห่ง ซึ่งทางสมาคมฯ เล็งเห็นโอกาสในการส่งเสริมและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมการผลิต สอดรับกับบทบาทของสมาคมฯ ที่มุ่งสนับสนุนสมาชิกซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตให้มีพื้นที่และมีส่วนในการสนับสนุนนักลงทุนในภาคตะวันออกในการผลิตผลิตภัณฑ์ให้แข่งขันได้ในตลาดโลกโอกาสทางการค้า มองหาตลาดใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตและการพัฒนาในเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคในภูมิภาคนี้ จึงได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงาน MIRA และ SUBCON Thailand: The East 2024 โดยได้นำภาคีเครือข่ายภาคอุตสาหกรรมร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงเพื่อส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตของไทยได้แสดงศักยภาพและคุณภาพของสินค้า ทางสมาคมฯ เชื่อมั่นว่าเวทีนี้จะเป็นก้าวที่สำคัญในการวางรากฐานการยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยในพื้นที่ภาคตะวันออกให้พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคเศรษฐกิจใหม่

นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า อินฟอร์มาฯ ถือเป็นแกนกลางที่สำคัญในการร่วมสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนให้กับทุกภาคอุตสาหกรรม โดยการจัดงาน "Mira and Subcon Thailand: The East 2024" ครั้งนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยมีหมุดหมายที่สำคัญในการสร้างโอกาสสำคัญให้กับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออกได้พบปะกับกับผู้ซื้อ ผู้ผลิตและนักลงทุน พร้อมกันนี้ยังมีการจัดแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรมและโซลูชั่นการผลิตชั้นสูง ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการนำพาไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียนในทศวรรษนี้

สำหรับงาน "MIRA and SUBCON Thailand : The East 2024" ได้จัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยในด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชันด้านการบำรุงรักษา รวมถึงโซลูชันปัญญาประดิษฐ์ เครื่องมือกลและอุปกรณ์ และ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ประกอบชั้นนำจากภาคอุตสาหกรรม หลากหลายแบรนด์มาจัดแสดง เช่น MITUTOYO, OMRON, THAI ROKUHA และ LERTVILAI รวมถึง MITSUBISHI ELECTRIC FACTORY AUTOMATION ที่ครั้งนี้นำเอาเทคโนโลยี Machine Tools : EDM Wire - Cut ที่โดดเด่นในด้านลดของเสียจากสายการผลิตมาจัดแสดง ทั้งนี้ภายในงานยังนำทีมหุ่นยนต์กู้ภัย IRAP ROBOT จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับภาคอุตสาหกรรม และ นวัตกรรมหุ่นยนต์ Service Robot ที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี โดยทีมจาก สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) มาจัดแสดงพร้อมเปิดเวทีแข่งขันเชื่อมโลหะ โดยสถาบันพัฒนาบุคลากรการเชื่อม (WelDa) พร้อมกันนี้ยังได้รวบรวมเครือข่ายกับนักอุตสาหกรรมและพันธมิตรทางธุรกิจจากนิคมอุตสาหกรรมกว่า 43 แห่ง ครอบคลุมจังหวัดภาคตะวันออก รวมถึงงานสัมมนาหัวข้อที่สำคัญจาก 4 เวทีหลักของงาน (MIRA Theatre / SUBCON THAILAND The East room / I- Factory Stage / Technology Presentation) ที่มีผลต่อทิศทางการผลิตในยุคเศรษฐกิจใหม่อย่าง MIRA Forum ที่รวบรวมความร่วมมือขององค์กรพันธมิตรที่สำคัญ รวมถึงสัมมนาในหัวข้อ "กลยุทธ์ในการจัดซื้อสำหรับนักจัดซื้อยุคใหม่" และไฮไลต์สำคัญ คือ การจับคู่ทางธุรกิจซึ่งได้รับการสนับสนุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เพื่อสร้างโอกาสสำคัญให้กับผู้ประกอบการไทย

พร้อมให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมแกร่งภาคอุตสาหกรรมพื้นที่ภาคตะวันออกร่วมกันในงาน "MIRA and SUBCON Thailand : The East 2024" โดยจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ - 6 กันยายน 2567 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา ผู้ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมภายในงานได้ทาง www.mira-event.com

 

ที่มา: ฮิต ทู พับบลิค

บีโอไอ ผนึกกำลัง สมาคมไทยซับคอน - อินฟอร์มา จัดงาน Mira and Subcon Thailand: The East 2024

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ