ด้าน เจฟ เผยว่า "ตอนแรกไม่คิดว่าหนังเรื่องนี้จะทำรายได้มาไกลถึงขนาดนี้ เป็นเพราะทุกคนเลยจริงๆ ครับ ขอบคุณคนดูมากๆ ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์คนดูเต็มโรงแน่นรอบ คือต้องบอกเลยว่าเป็นหนังที่อาศัยกระแสการบอกต่ออย่างรุนแรงเลย คือคนที่ไปดูกันมาก็มารีวิวต่อแบบปากต่อปาก ผมก็ไปไล่อ่านคอมเมนต์ที่เขารีวิวในโซเชียลตลอด ดีใจและมีความสุขมากครับที่ทำให้คนดูอินไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนัง ที่สำคัญผมมองว่าผลงานที่พวกเราตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด เป็นคำตอบของความสำเร็จในวันนี้ ซึ่งคำว่าเดินทางสู่ 150 ล้าน เป็นเหมือนกับรางวัลที่ทำให้พวกเราทั้งทีมงานและนักแสดงทุกคนรู้สึกภูมิใจมาก นอกจากนั้นหนังเรื่องนี้ก็กำลังจะเดินทางไปมอบความสนุกเข้มข้น และสะท้อนมุมมองความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้นในสังคมในอีกหลายประเทศแทบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์อีกด้วยครับ"
ส่วน อิงฟ้า เสริมว่า "ดีใจและเหนือความคาดหมายมากค่ะ เพราะว่าจริงๆ แล้วแอบหวังเล็กๆ ว่าอยากจะให้วิมานหนามไปได้ไกลที่สุด เพราะจริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้ คนไม่ได้แกะรหัส แค่เรื่องของความสำคัญของตัวละคร แต่เนื้อเรื่องมันสะท้อนความไม่เท่าเทียมในสังคมด้วย เช่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่รายได้ประชากรน้อยที่สุด แถมยังไม่มีโรงภาพยนตร์ให้ดูอีกด้วย อะไรแบบนี้มันก็เลยเป็นแรงขับเคลื่อน ที่คนพูดต่อกันปากต่อปากว่าอยากจะไปดูเรื่องนี้ หรืออย่างใครที่ได้ไปดูมาแล้วเขาก็จะมาแชร์กันว่าชอบซีนไหน ได้แง่คิดอะไรจากหนังเรื่องนี้บ้าง ซึ่งหนูเองได้อ่านฟีดแบ็คหลายๆ อัน ก็รู้สึกว่าดีใจ ที่คนดูชื่นชอบและรักหนังเรื่องนี้ค่ะ"
ความสำเร็จของภาพยนตร์ "วิมานหนาม" ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ล่าสุดหนังได้เดินทางไปสู่ตลาดโลก โดยไปฉายเป็น International Premiere ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต ครั้งที่ 49 ที่ประเทศแคนาดา และเตรียมตัวไปฉายยังประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ อีกด้วย สำหรับผู้ชมชาวไทยความสนุกยังคงรอให้คุณไปพิสูจน์ด้วยตา แล้วไปฟินและอินกันต่อทุกห้วงอารมณ์ได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์
ที่มา: งานดีทวีสุข