นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมฯ JCMH ฝ่ายไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการร่วมไทย - ลาว หรือ JCMH คือ คณะทำงานกลไกความร่วมมือของราชอาณาจักรไทย และ สปป.ลาว เพื่อแลกเปลี่ยนการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผลกระทบต่อตลิ่งและฝั่งรวมทั้งระบบนิเวศวิทยา อันเกิดจากการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง เนื่องจากพื้นที่จังหวัดชายแดนมีกิจกรรม ที่อาจส่งผลกระทบต่อแม่น้ำที่เป็นแนวพรมแดนกั้นระหว่างสองประเทศ เช่น การดูดทราย การดำเนินการสิ่งก่อสร้างตามลำน้ำ เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆ บริเวณแม่น้ำและตลิ่งของทั้งสองฝ่ายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกิดประโยชน์ และไม่นำไปสู่ปัญหาที่อาจจะกระทบต่ออีกฝ่าย จึงได้มีกลไกร่วมกันระหว่างสองฝ่ายสำหรับการหารือและดำเนินการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมในแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง ซึ่งได้มีการประชุมร่วมกันไปแล้วจำนวน 3 ครั้ง สำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมไทย - ลาว ครั้งนี้ เป็นการรับทราบผลการดำเนินการที่ผ่านมาของคณะอนุกรรมการเทคนิคร่วม ภายใต้คณะกรรมการร่วมไทย-ลาว เพื่อดูแลการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง (Joint Technical Sub-Committee for Management on Mekong River and Heung River : JTMH) ที่ได้ดำเนินการร่วมมือกันเป็นอย่างดี ในการแก้ไขปัญหา และแก้ไขข้อกำหนดให้ครอบคลุม และทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ประกอบด้วย ข้อกำหนดมาตรฐานด้านเทคนิคการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง และข้อกำหนดทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับการดูดทรายตามแม่น้ำโขง และแม่น้ำเหือง (แก้ไขปรับปรุงครั้งที่ 1) ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศที่อยู่ตามริมแม่น้ำโขง และแม่น้ำเหือง ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่มีผลกระทบต่อกัน และให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้นำผลการบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมไทย - ลาว เพื่อดูแลการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง ครั้งที่ 4 ไปเผยแพร่ให้ภาครัฐ เอกชน และประชาชนของสองประเทศที่อยู่ตามแนวแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง ให้รับทราบและดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
สำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมฯ JCMH ในวันนี้ ได้มีการจัดทำบันทึกร่วมกันแบ่งเป็นสองฉบับ ได้แก่ ฉบับภาษาไทยและฉบับภาษาลาว ซึ่งทั้งสองภาษามีคุณค่าเท่าเทียมกัน นับเป็นความร่วมมือที่ดีของทั้ง 2 ประเทศ ที่จะได้ร่วมกันเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และชัดเจนตรงกัน ให้กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ที่อยู่ตามแนวแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหืองต่อไป
ที่มา: กรมโยธาธิการและผังเมือง