งาน THAI FASHION & TEXTILE BUSINESS MATCHING TOKYO 2024 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 - 30 สิงหาคม 2567 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Qurated Fashion Incubation Project 2024 หรือโครงการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการแฟชั่น ดำเนินการโดย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ซึ่งสยามพิวรรธน์ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ด้านแฟชั่นที่เป็นเอกลักษณ์จากภูมิปัญญาไทย งานฝีมือที่มีความร่วมสมัย และความคิดสร้างสรรค์ที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ โดยในปีนี้ 10 แบรนด์ ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ Frank De Nara, Collector Project, BALC, Marionsiam, Baan Maew Maew, Riva, Salette, Ethinicabaca, E-Nang และ Wonder Anatomie โดยสินค้าทั้งหมดจะถูกนำมาวางจำหน่ายในร้าน ไอคอนคราฟต์ (ICONCRAFT) บริเวณชั้น 4 และ ชั้น 5 ไอคอนสยาม พร้อมด้วยสินค้าใหม่อีก 6 แบรนด์ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้
นางอุสรา ยงปิยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าปลีก สยามพิวรรธน์ บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า "ไอคอนคราฟต์ (ICONCRAFT) เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่รังสรรค์โดยสยามพิวรรธน์ เพื่อนำเสนองานคราฟต์ร่วมสมัยจากเหล่าดีไซเนอร์ ช่างฝีมือไทย และผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเราได้ทำงานร่วมกับ DITP มาหลายปีติดต่อกันเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทย ให้ขยายธุรกิจในต่างประเทศ ภายใต้แนวคิด #วิถีสยามพิวรรธน์ ด้วยการเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาสเพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วน โดยสนับสนุนในด้านพัฒนาศักยภาพ ยกระดับผลิตภัณฑ์ และสร้างช่องทางการตลาดให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก โดยงานนี้เป็นอีก 1 เวทีสำคัญในระดับนานาชาติ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้โชว์ฝีมือและแสดงผลงานสู่สายตาชาวโลกให้ได้เห็นถึงศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์และภูมิปัญญาของคนไทย ยกระดับ แบรนด์ไทยสู่ระดับสากลได้อย่างเต็มภาคภูมิ"
ด้านมุมมองของตัวแทนผู้ประกอบการไทยรายย่อยจาก ICONCRAFT ที่ได้นำผลิตภัณฑ์ไปร่วมงานในครั้งนี้ ได้พูดถึงโอกาสครั้งสำคัญในการไปออกบูธยังตลาดต่างประเทศ โดยนางวิชชุกร โชคดีทวีอนันต์ ตัวแทนจากแบรนด์ Baan Meaw Meaw ได้แชร์ว่า "รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับโครงการดีๆ เช่นนี้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากสยามพิวรรธน์ ตั้งแต่การให้ความรู้และการสร้างความเข้าใจด้านการตลาดส่งออก จนกระทั่งมีโอกาสได้นำผลงานสินค้าไปจัดแสดงในตลาดต่างประเทศ" ในขณะที่ นางสาว กมลมณี เจริญยุทธ์ จากแบรนด์ BALC มองว่า "ด้วยความเชื่อมั่นในสยามพิวรรธน์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการส่งเสริมและผลักดันสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ทำให้ทางแบรนด์ได้มีโอกาสเติบโตในตลาดโลก จนได้ขยายธุรกิจไปในหลายๆ ประเทศ"
สยามพิวรรธน์ มุ่งสร้างธุรกิจให้เป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาส (Opportunity Platform) เพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนของทุกภาคส่วน ด้วยแนวทางของการร่วมรังสรรค์ (Co-creation) สร้างคุณค่าร่วมกัน (Shared value) ตั้งแต่พันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า ชุมชน สังคม สามารถเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อคนจำนวนมาก และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทยบนเวทีโลก
ที่มา: สยามพิวรรธน์