สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ KTX คาดว่า ตลาดที่นักลงทุนไทยไปลงทุนหุ้นต่างประเทศจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย KTX มีมุมมองต่อตลาดต่างประเทศในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 KTX ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะยังคงมีความผันผวน โดยได้รับแรงหนุนจากการตัดสินใจการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จากปัจจัยแนวโน้มเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ดีกว่าคาด แม้มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ แต่จากสถิติตลาดหุ้นสหรัฐฯ ย้อนหลัง มักจะปรับตัวขึ้นหลังผลการเลือกตั้ง ขณะที่ตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย เช่น ตลาดหุ้นฮ่องกง คาดว่ายังคงเผชิญความท้าทายต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ช้ากว่าที่ตลาดคาด แต่ก็ยังมีปัจจัยหนุนจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นระยะ ๆ และเล็งเห็นผลมากขึ้น ประกอบกับตลาดหุ้นยังคุ้มค่าในแง่การประเมินมูลค่าจึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและมองหาโอกาสผลตอบแทนการลงทุนในระยะยาว
โดยจุดเด่นที่ส่งผลให้บริการนี้ของ KTX เติบโต เนื่องจากแอปพลิเคชัน KTX Inter Trade มีจุดเด่นคือ เปิดบัญชีครั้งเดียว เทรดได้ 26 ประเทศ 34 ตลาดหลักทรัพย์ และยังมอบสิทธิประโยชน์ฟรีในการเข้าถึงข้อมูลตลาดแบบ Real-time ฟรีค่าธรรมเนียม เมื่อเติมเงินผ่าน Krungthai NEXT ฟรีค่าธรรมเนียมยื่นแบบ W-8Ben ไม่มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำในการเทรดหุ้นตลาดฮ่องกง และสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินในระบบเทรดได้แบบ Real-time รวมถึงนักลงทุนสามารถโอนเงินดอลลาร์สหรัฐและดอลลาร์ฮ่องกงเข้าบัญชีเทรดได้ภายในวันเดียวกัน รองรับทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ นอกจากนี้ยังมอบโปรโมชันพิเศษตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. - 30 ธ.ค. 2567 เทรดหุ้นอเมริกากับ KTX ค่าคอมฯ ขั้นต่ำเพียง 4.99 ดอลลาร์สหรัฐ
"จากผลประกอบการข้างต้น รวมถึงการสร้างมาตรฐานในการให้บริการและดูแลลูกค้าที่ดี และการพัฒนาระบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับกลุ่มลูกค้ารายย่อยให้ขึ้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในการเป็นผู้ให้บริการสำหรับตลาดลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศภายใน 3 ปี" มล. ทองมกุฎ กล่าว
ที่มา: บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง