รู้ทัน "โรคฝีดาษวานร" โรคระบาดป้องกันได้ !!!

ศุกร์ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๗ ๑๗:๒๖
"โรคฝีดาษวานร" หรือที่เรียกกันติดปากว่า "โรคฝีดาษลิง" หลายๆ คนคงคิดว่าเป็นโรคระบาดที่ไกลตัวไม่สามารถป่วยหรือติดเชื้อกันได้ง่ายๆ แต่รู้หรือไม่ว่า "โรคฝีดาษวานร" อันตรายกว่าที่คิด เพราะปัจจุบันเป็นโรคที่ องค์การอนามัยโลก (WHO) และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยตั้งแต่ปี 2022 ที่เริ่มมีการระบาดจนถึงปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อ "โรคฝีดาษวานร" จากทั่วโลกมากกว่าหนึ่งแสนราย ถึงแม้ในขณะนี้สถานการณ์ของโรคฝีดาษวานรในประเทศต่างๆ ดีขึ้น จำนวนผู้ป่วยลดลงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่ในประเทศแถบแอฟริกากลางโดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) กลับพบว่ามีการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ Clade Ib ซึ่งแพร่จากคนสู่คนได้ง่ายขึ้นและมีการระบาดไปยังประเทศข้างเคียงอีก 4 ประเทศได้แก่ รวันดา บุรุนดี ยูกันดา เคนยา
รู้ทัน โรคฝีดาษวานร โรคระบาดป้องกันได้ !!!

โดยในปี 2024 มีรายงานจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกและประเทศข้างเคียง ตรวจพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโรคฝีดาษลิงมากถึง 25,000 ราย และเสียชีวิตไปแล้ว 700 กว่าราย และมีรายงานผู้ป่วยในประเทศไทย 1 รายจากชาวยุโรป แต่ยังไม่พบการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ Clade Ib นี้ในประเทศไทย สำหรับในประเทศไทยสถานการณ์โรคยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ จำนวนผู้ป่วยใหม่เฉลี่ย 10 กว่ารายในแต่ละเดือน เป็นสายพันธุ์ Clade IIb เช่นเดียวกับที่มีการระบาดทั่วโลกตั้งแต่ปี 2022

พญ.จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้ข้อมูลว่า โรคฝีดาษวานร หรือ โรคฝีดาษลิง เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส Mpox ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสในกลุ่มเดียวกับโรคฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษ พบการติดเชื้อในลิงครั้งแรกในปี 1958 ต่อมาพบว่าเชื้อสามารถแพร่จากสัตว์สู่คน โดยตรวจพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงครั้งแรกที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) ทวีปแอฟริกากลาง ซึ่งโรคฝีดาษลิง ส่วนใหญ่จะมีการระบาดในประเทศที่อยู่ในทวีปแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก อาทิ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, สาธารณรัฐคองโก, ประเทศไนจีเรีย, สาธารณรัฐเบนิน และสาธารณรัฐเซียร์ราลีโอน เป็นต้น

"โรคฝีดาษลิง" เป็นโรคที่พบในสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก กระต่าย โรคนี้ยังสามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้จากการสัมผัสใกล้ชิดสัตว์ การสัมผัสซากสัตว์ รับประทานเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุกและติดต่อจากคนสู่คนได้ จากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย การสัมผัสตุ่มหนองและสารคัดหลั่ง การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วย การพูดคุยในระยะใกล้ชิดเป็นระยะเวลานาน การใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว เครื่องนอน แก้วน้ำดื่ม สำหรับการระบาดตั้งแต่ปี 2022 พบว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นต์เป็นผู้ป่วยกลุ่มชายรักชายที่ติดผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นผู้ที่มีคู่นอนมากกว่า 1 คน หรือมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะกลุ่มชายรักชาย ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อได้

พญ.จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์ ให้ข้อมูลต่อว่า สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ "โรคฝีดาษลิง" ไวรัสจะใช้เวลาฟักตัวได้ตั้งแต่ 6-21 วัน จึงเริ่มแสดงอาการ โดยเริ่มจากอาการไข้สูงเกินกว่า 38 องศาเซลเซียส ต่อมน้ำเหลืองโต เจ็บคอ เมื่อยตัว ปวดศีรษะ ในช่วง 3-5 วันแรก หลังจากนั้นจะเริ่มมีผื่นแดงนูน พบได้บริเวณใบหน้า แขน ขา มือ ในช่องปาก ลำตัว รวมไปถึง อวัยวะเพศ หรือบริเวณทวารหนัก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการสัมผัส หลังจากนั้นผื่นแดงนูน จะเปลี่ยนเป็นตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง และแตกเป็นสะเก็ดและค่อยๆ หลุดไป หลังจากติดเชื้อผู้ป่วยจะสามารถหายจากโรคนี้เองได้ภายใน 2-4 สัปดาห์

สำหรับการรักษา "โรคฝีดาษลิง" แพทย์จะทำการวินิจฉัยและรักษาโรคตามอาการ เช่นการให้สารน้ำ การดูแลแผล การให้ยาแก้ปวด เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มียาในการรักษาเฉพาะ แต่อาจใช้ยาต้านไวรัส Tecovirimat ที่ใช้รักษาฝีดาษคนมาใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีอาการรุนแรงหรือผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงได้ อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพของยายังไม่ชัดเจน ในปัจจุบันสามารถควบคุมการระบาดของโรคฝีดาษลิง ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งวัคซีนที่ใช้เป็นวัคซีนโรคฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษ แต่สามารถนำมาใช้ป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ โดยแนะนำฉีดได้เฉพาะกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงเท่านั้น กลุ่มแรก คือการฉีดวัคซีนก่อนสัมผัสเชื้อ เช่น กลุ่มเสี่ยงชายรักชายที่มีคู่นอนหลายคน บุคลากรทางการแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ห้องแล็บที่ต้องสัมผัสเชื้อ กลุ่มที่สอง คือ หลังสัมผัสโรคคือผู้ที่ใกล้ชิดผู้ที่ป่วยด้วยโรคฝีดาษลิง โดยการฉีดวัคซีนจะสามารถป้องกันโรคได้ต้องฉีดภายใน 4 วันหลังสัมผัสเชื้อ และฉีดได้ถึงภายใน 14 วัน แต่การฉีดภายใน 4-14 วัน จะไม่ป้องกันการติดเชื้อแต่ลดความรุนแรงได้ ประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันอาการป่วยได้กว่า 66-80 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

พญ.จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์ กล่าวปิดท้ายว่า วิธีสังเกตอาการโรคฝีดาษลิงง่ายๆ ด้วยตัวเอง คือหากมีการสัมผัสผู้ที่มีอาการเข้าข่ายน่าสงสัยที่จะเป็นโรคฝีดาษลิง เช่น สัมผัสกอดใกล้ชิดผู้ป่วย มีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า เดินทางหรือสัมผัสสัตว์ป่าที่นำเข้ามาจากประเทศในทวีปแอฟริกากลางและทวีปแอฟริกาตะวันตก ภายใน 21 วันก่อนหน้า ควรเฝ้าระวังการติดเชื้อ หากเกิดตุ่มน้ำบริเวณผิวหนัง ช่องปาก หรือ อวัยวะเพศ ทวารหนัก ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัย และรักษา เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนและลดการแพร่ระบาดของโรค

สำหรับผู้ที่กำลังจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศในทวีปแอฟริกากลางและทวีปแอฟริกาตะวันตก หรือสงสัยว่าตัวเองติดเชื้อโรคฝีดาษลิง สามารถสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูล "โรคฝีดาษลิง" ได้ที่ โทร.1270 หรือ Line: https://lhco.li/3YR7rhZ และ Facebook: Praram9 Hospital โรงพยาบาลพระรามเก้า HEALTHCARE YOU CAN TRUST เรื่องสุขภาพ…ไว้ใจเรา #Praram9Hospital

ที่มา: โรงพยาบาลพระรามเก้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ