จากธุรกิจ SME ที่ก่อร่างสร้างตัว สู่ SME Role Model ในฐานะบริษัทสปารายแรกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และ พร้อมก้าวไปอีกขั้นสู่ Asia's Regional Spa Leader ผู้นำด้านธุรกิจสปาและเวลเนสของภูมิภาคเอเชีย ด้วยแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับภูมิภาค การย้ายเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นโอกาสในการยกระดับธุรกิจของ SPA ให้มีการเติบโตอย่างมีศักยภาพ ตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น รวมถึงนักลงทุนสถาบันและส่วนบุคคล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนคู่ค้าพันธมิตรทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ดีให้กับบริษัท ด้วยกลยุทธ์ Data-Driven Spa & Wellness Company
"ตลอดระยะเวลาที่จดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอของ SPA เกือบ 10 ปี ตั้งแต่ First Trading Day เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557 SPA ถือเป็นหุ้น High Growth มีแบรนด์พอร์ตโฟลิโอในหมวดธุรกิจสปาและเวลเนสที่หลากหลายครอบคลุมธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีจำนวนสาขาเติบโตอย่างก้าวกระโดดและยังเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน นักวิเคราะห์และกองทุน ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อศักยภาพการดำเนินงานที่โดดเด่นตลอดมา และยังอยู่ในเมกะเทรนด์ทั้งธุรกิจท่องเที่ยวและสุขภาพที่มีโอกาสเติบโตและเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน" นายวิบูลย์ กล่าว
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ SPA ผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในครึ่งปีแรก ปี 2567 มีรายได้รวม 790.57 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 135.59 ล้านบาท โดยในปี 2567 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตที่ 1,700 ล้านบาท ทางฝ่ายบริหารมั่นใจว่าผลประกอบการในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากไตรมาส 3 มีช่วงวันหยุดของทั้งตลาดระยะใกล้ (School Holiday) และตลาดระยะไกล (Summer Holiday) และการเข้าสู่ช่วงฤดูการท่องเที่ยวของภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาลในการยกเว้นวีซ่าเพื่อให้ถึงเป้าหมายรายได้เชิงนโยบายจากรัฐบาล 3.5 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.5 ล้านล้านบาท และรายได้จากนักท่องเที่ยวไทย 1 ล้านล้านบาท โดยมีรายได้ธุรกิจสปาจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่โตโดดเด่น
สำหรับแผนการเติบโตในปี 2567-8 บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาใหม่หลากหลายสาขาในทำเล Prime Area ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยว ทั้งในรูปแบบสาขาของบริษัท (Own Store) และรับบริหารสปาในโรงแรม (Spa Operating in Hotel) โดยจะมี Flagship Project ของปีหน้าเป็นออนเซนแห่งที่ 3 Let's Relax Onsen Lumpini บนพื้นที่กว่า 3,000 ตรม. ตั้งอยู่ในโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลุมพินี ตรงข้าม One Bangkok และใกล้แหล่งทำเลธุรกิจของกรุงเทพฯ แสดงถึงศักยภาพการเป็นผู้นำด้านธุรกิจออนเซนของไทยอีกตำแหน่งหนึ่ง
บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ "SPA" เป็นผู้นำด้านธุรกิจสปาและเวลเนสครบวงจร ดำเนินธุรกิจนวดและสปาเพื่อสุขภาพ ทั้งหมด 73 สาขา แบ่งเป็น ระรินจินดา เวลเนส สปา สปาระดับ 5 ดาว จำนวน 2 สาขา Let's Relax สปาระดับ 4 ดาว จำนวน 57 สาขา (55 สาขาในประเทศและ 2 สาขาต่างประเทศ) Baan Suan Massage ร้านนวดระดับ 3 ดาว จำนวน 8 สาขา Stretch me Clinic จำนวน 4 สาขา และ Dr. Spiller Pure Skin Care Solutions จำนวน 2 สาขา นอกจากนี้ยังดำเนินธุรกิจรีสอร์ตและร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่ จ. เชียงใหม่ ภายใต้ ระรินจินดา เวลเนส สปา รีสอร์ท ระริน วิลล่าส์ (รับบริหาร) ร้านอาหารเดควัน และ โอบ คาเฟ่ แอนด์ มีล (รับบริหาร) ธุรกิจผลิตภัณฑ์สปา ภายใต้แบรนด์ LRL - Let's Relax Lifestyle นำเข้าผลิตภัณฑ์สปาและความงาม และโรงเรียนสอนนวดแผนไทยและสปา
ภาพข่าว (จากซ้าย-ขวา) คุณฐานิศร์ อมรธีรสรรค์ กรรมการ คุณประเสริฐ จิราวรรณสถิตย์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ คุณวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คุณประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai คุณปราณี ศุภวัฒนเกียรติ ประธานกรรมการ คุณณรัล วิวรรธนไกร กรรมการบริหาร คุณภัทรมน พิธุพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสรรหาและพัฒนาบริษัทจดทะเบียน mai คุณพิมพิดา นิวัฒน์ภูมินทร์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายผู้ออกหลักทรัพย์ 3
ที่มา: Siam Wellness Group