นับตั้งแต่เปิดตัว โครงการ DIPROM x DELTA Angel Fund ในปี 2559 ได้มีการเสริมศักยภาพให้กับสตาร์ทอัพกว่า 207 ราย ด้วยการมอบทุนสนับสนุน การให้คำปรึกษา และการเปิดโอกาสในการเข้าถึงเน็ตเวิร์คของอุตสาหกรรมนั้น ๆ โดย
เดลต้าได้สนับสนุนเงินทุนมากกว่า 33.16 ล้านบาท และช่วยสร้างงาน 927 ตำแหน่ง ซึ่งโครงการดังกล่าวมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการนำนวัตกรรมต่าง ๆ เข้าสู่ตลาดเชิงพานิชย์ได้อย่างชัดเจน สำหรับปีนี้ มีทีมที่ได้รับการคัดเลือกจำนวน 10 ทีม ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนรวม 5,000,000 บาท โดยแต่ละทีมได้นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาผ่านการใช้นวัตกรรม ซึ่งสอดคล้องไปกับแก่นโครงการในปีนี้ นั้นคือมุ่งเน้นการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย
นายวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานกรรมการบริหารบริษัท เดลต้า ประเทศไทย กล่าวว่า "ที่เดลต้า ความมุ่งมั่นของเราในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนเปรียบเสมือนแก่นหลักสำคัญในทุก ๆ กระบวนการดำเนินงานของเรา โครงการ Angel Fund นั้นไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นแค่การสนับสนุนทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีสำหรับการบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์และการส่งมอบเครื่องมือที่จำเป็นให้กับสตาร์ทอัพเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ เนื่องจากเดลต้าให้ความสำคัญด้านนวัตกรรมส่งผลให้เดลต้าไม่ได้เพียงมุ่งหวังเพียงแค่สนับสนุนผู้ประกอบการภายในโครงการเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการเข้ามามีส่วนร่วมช่วยผลักดันประเทศไทยสู่ความเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีระดับโลกอีกด้วย"
โดยในปีนี้มีนวัตกรรมที่โดดเด่น ดังนี้
- อากาศยานไร้คนขับขึ้นลงแนวดิ่งประสิทธิภาพสูง จากทีม iCreativeSystems
- อุปกรณ์ช่วยพลิกตัวอัตโนมัติเพื่อป้องกันแผลกดทับ จากทีม Side2sideR
- อนุสรณ์ออนไลน์ จากทีม SHARESOULS
- อุปกรณ์ AI Audiologist สำหรับการคัดกรองและวิเคราะห์การได้ยิน จากทีม EarEssence
- แพลตฟอร์มไมโครอาเรย์สำหรับการนำส่งยา จากทีม E.C.NEXT.CO., LTD
- วัสดุดูดซับและห้ามเลือดรูปแบบฟองน้ำจากพอลิเมอร์ธรรมชาติ จากทีม UltiMat
- โซลูชันน้ำพลาสมา จากทีม Plasma Innovations
- นมโทกิ 100% แคลเซียมแม็กซ์ (ไม่มีโซเดียม) จากทีม CSK Deluxe Garment
- ระบบกักเก็บพลังงาน (C-BESS) จากทีม PJJ Solutions
- เชื้อบริสุทธิ์สำหรับการเพาะเห็ด จากทีม So Mush
โดยนวัตกรรมข้างต้นนั้น พร้อมเข้าสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ โดยคาดการณ์การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาท
หนึ่งในโปรเจคที่โดดเด่นของปีนี้มาจากทีม iCreativeSystems ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศจากโซลูชันอากาศยานไร้คนขับที่สามารถนำทางระยะไกล ผ่านสถานีควบคุมแบบพกพาได้ นวัตกรรมนี้เป็นแบบอย่างแก่นสารของโครงการ Angel Fund ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นโปรเจคที่นำความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีขั้นสูงรวมเข้าด้วยกัน เพื่อพัฒนาโซลูชันที่สามารถขยายขนาดได้ เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการสำรวจทางอากาศที่มีความท้าทายสูง เช่น การส่งของ การถ่ายภาพ และการเก็บข้อมูล ซึ่งรวมถึงการส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยังพื้นที่ห่างไกลและการสำรวจเพื่อป้องกันการบุกรุกที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาต ด้วยคุณสมบัติที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอากาศยานไร้คนขับได้อย่างครอบคลุม ส่งผลให้โปรเจคดังกล่าวสามารถนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม
นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าว "DIPROM มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งความร่วมมือระหว่าง DIPROM และบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ได้เดินทางมาสู่ปีที่ 9 แล้ว และเรายังคงมีความมุ่งมั่น ส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่ในประเทศไทยด้วยการเข้าถึงของแหล่งเงินทุน การบ่มเพาะธุรกิจ และโอกาสทางการค้า สำหรับปีนี้ เรามุ่งเน้นเป็นพิเศษในอุตสาหกรรมภายในกลุ่ม S-Curve และ New S-Curve ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทยในระดับโลกต่อไป"
เดลต้า ประเทศไทย ยังคงขับเคลื่อนกลยุทธ์ที่เน้นนวัตกรรมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการ Angel Fund ยังคงเป็นเสาหลักสำคัญในวิสัยทัศน์ของบริษัทในด้านการสนับสนุน ecosystem ของสตาร์ทอัพในประเทศไทย ซึ่ง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เดลต้าเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสนับสนุนโครงการ DIPROM x DELTA Angel Fund สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.diprom.go.th
ที่มา: Vero