การกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ยังเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตลาด และช่วยกระตุ้นความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและภาคการก่อสร้าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ NER ในฐานะผู้ผลิตและส่งออกยางพารารายสำคัญของประเทศไทย นอกจากนี้มาตรการดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลจีนในการสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ และสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ให้มีการปรับตัวสูงขึ้น ตามความต้องการในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ธนาคารกลางลดดอกเบี้ย และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
โดยบริษัทมั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลดีต่อผลประกอบการ โดยคาดว่ารายได้รวมในปี 2567 จะเติบโตสูงถึง 28,500 ล้านบาท จากปริมาณการขายยางพาราที่ตั้งเป้าไว้ที่ 440,000 ตัน การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนจะช่วยสนับสนุนให้ความต้องการยางพาราเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและสร้างรายได้ที่มั่นคงในอนาคต
ที่มา: ธามดี พลัส