"ไซโน โลจิสติกส์ฯ" พร้อมรับมือผลกระทบแรงงานท่าเรือสหรัฐฯ หยุดงาน มั่นใจมีพื้นที่ขนส่งสินค้าทางทะเลเส้นทางไทย-อเมริกาเพียงพอ

พุธ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๗ ๑๑:๑๓
'บมจ.ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น' หรือ SINO ให้ความมั่นใจแก่ลูกค้าพร้อมรับมือผลกระทบจากกรณีแรงงานท่าเรือในสหรัฐฯ นัดหยุดงานที่ท่าเรือฝั่งตะวันออกในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในสัญญาใหม่ ชี้กระทบระยะเวลาขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรือนานขึ้นและค่าขนส่งสินค้าทางทะเลเพิ่มขึ้น 20-50% รวมถึงพื้นที่ขนส่งสินค้าไม่เพียงพอ ชูจุดแข็งเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่มีปริมาณขนส่งสินค้าทางทะเลเส้นทางไทย-สหรัฐฯ อันดับ 3 ของโลก และความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ประกอบการสายการเดินเรือไปยังสหรัฐฯ จัดหาพื้นที่ขนส่งสินค้าให้เพียงพอกับดีมานด์
ไซโน โลจิสติกส์ฯ พร้อมรับมือผลกระทบแรงงานท่าเรือสหรัฐฯ หยุดงาน มั่นใจมีพื้นที่ขนส่งสินค้าทางทะเลเส้นทางไทย-อเมริกาเพียงพอ

นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยว่า จากกรณีที่แรงงานท่าเรือชายฝั่งประเทศสหรัฐอเมริกาหลายพันคนในสังกัด The International Longshoremen's Association (ILA) ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ ได้นัดหยุดงานที่ท่าเรือในรัฐต่างๆ ในฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ เช่น นิวยอร์ค, นิวเจอร์ซี่, เซาท์แคโลไรน่า รวมประมาณ 8-9 รัฐ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 หากไม่สามารถทำข้อตกลงสัญญาใหม่ทดแทนสัญญาเดิมที่ครบกำหนดในวันที่ 30 กันยายน 2567 กับสหภาพการค้าเรือสินค้าแห่งสหรัฐอเมริกา (USMX) โดยต้องการเรียกร้องการปรับขึ้นอัตราค่าจ้าง

กรณีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเล มายังท่าเรือในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ อาทิ การปรับเปลี่ยนมาใช้สายการเดินเรือขนส่งสินค้าเส้นทางตะวันตกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง, ผู้นำเข้าสินค้าอาจใช้เวลาขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรือเพิ่มขึ้นและมีค่าใช้จ่ายการค้างตู้ที่ท่าเรือเพิ่มขึ้น ฯลฯ ซึ่งปัญหาดังกล่าวทำให้ค่าขนส่งสินค้าทางทะเลเส้นทางไทย-สหรัฐฯ ในปัจจุบันปรับเพิ่มขึ้น 20-50% และเริ่มมีพื้นที่ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลไม่เพียงพอกับความต้องการ เนื่องจากเกิดความล่าช้าในการจัดส่งสินค้า

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้วางแผนบริหารจัดการเพื่อรับมือปัญหาดังกล่าว โดยใช้จุดแข็งจากการเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่มีปริมาณขนส่งสินค้าทางทะเลเส้นทางไทย-สหรัฐฯ เป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทยในเส้นทางดังกล่าว รวมถึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ประกอบการสายการเดินเรือไปยังสหรัฐฯ ในการประสานงานเพื่อจัดหาพื้นที่ขนส่งสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อสร้างความมั่นใจ

"ในช่วงที่มีผลกระทบการขนส่งสินค้าไปยังฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ จากการนัดหยุดงานของคนงานในท่าเรือ ทีมงานฝ่ายขายของบริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่ออัพเดตข้อมูลแก่ลูกค้า ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะทำผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปีนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรายได้ที่คาดว่าจะเติบโตได้ดีจากความต้องการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เรามุ่งมั่นพัฒนาพัฒนาการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น โดยก่อนหน้านี้ได้นำเสนอบริการ 'Dashboard' แก่ลูกค้าในสหรัฐฯ สามารถใช้บริการดังกล่าวเพื่อติดตามสถานะตู้คอนเทนเนอร์และเช็กระยะเวลาการขนส่งถึงปลายทางได้เองจากช่องทางเว็บไซต์ที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้นเอง เพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้า" นายนันท์มนัส กล่าว

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ